ตำรวจเร่งล่าตัวกลุ่มมิจฉาชีพชาวอินเดีย แฝงตัวมาในคราบนักท่องเที่ยว ก่อเหตุทั่วอ่าวนาง ขโมยทรัพย์สิน พฤติกรรมตบทรัพย์ ซื้อของในร้านอ้างจ่ายแบงค์พันเรียกหาเงินทอน สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว
5 มิ.ย.2565 – ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านขายของชำแห่งหนึ่งหน้าหาดอ่าวนาง ม.2 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ได้เผยให้เห็นถึงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติรายหนึ่ง ขณะที่เข้าซื้อของภายในร้าน เมื่อพนักงานเผลอได้หยิบโทรศัพท์ ที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ ใส่กระเป๋ากางเกง เดินออกจากร้านอย่างใจเย็น หลังพนักงานคนดังกล่าวทราบว่าโทรศัพท์หาย ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.อ่าวนาง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวคนร้ายชาวต่างชาติรายนี้มาดำเนินคดี
จากการสอบถามนายมานะ ศิริธีระวัฒน์ เจ้าของร้าน ทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา 20.00 น.เศษ ขณะที่นางสาวอาพร สารภี อายุ 40 ปี พนักงานทำงานอยู่ในร้าน ได้มีนักท่องเที่ยวเป็นชายชาวอินเดีย เดินเข้ามาซื้อ ขนมขบเคี้ยวและน้ำภายในร้าน หลังจากที่นักท่องเที่ยวรายดังกล่าว ได้กล่าวได้ออกไปจากร้าน ทางพนักงานพบว่าโทรศัพท์ของตัวเอง ยี่ห้อหัวเหว่ย ที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์หายไป ก็ได้มาเปิดกล้องวงจรปิดดู พบว่าคนที่ขโมยโทรศัพท์ไป เป็นนักท่องเที่ยวรายดังกล่าว จึงได้ให้ น.ส.อาพร ไปแจ้งความไว้ ที่ สภ.อ่าวนาง
นายมานะ ยังได้กล่าวด้วยว่า นอกจากโทรศัพท์ ของพนักงานถูกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียขโมยแล้ว นักท่องเที่ยวกลุ่มนี่ยังมีพฤติกรรมตบทรัพย์ เช่น บางทีเข้ามาซื้อของในร้าน ราคา 100 บาท เมื่อจ่ายเงินเสร็จตามจำนวน ก็เดินออกจากร้านแล้วเข้ามาอีก และระบุว่าเขาจ่ายเป็นแบงค์พัน ทางร้านยังไม่ทอนเงินให้ โดยพฤติกรรมจะรุมกันเข้ามา เมื่อทางร้านเปิดภาพจากกล้องวงปิดให้ดู ก็จะเดินออกจากร้านทันที ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว เจอค่อนข้างบ่อยมาก จึงอยากขอฝากเตือนไปยังเจ้าของร้านอื่นๆ ทางทีดีควรจะติดกล้องวงจรปิดไว้ในร้านจะได้ใช้เป็นหลักฐาน เพราะพฤติกรรมของมิจฉาชีพ แฝงมาในรูปแบบต่างๆหลายรูปแบบโดยเฉพาะการเข้ามาซื้อสินค้าแล้วบอกทางร้านว่า จ่ายแบงค์พัน เพื่อให้ทางร้านทอนเงินให้ซึ่งเจอค่อนข้างบ่อยซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวอินเดีย.