“บางกอกนฤมิต ไพรด์” ครั้งแรกขบวนพาเหรด “ไพรด์” ในกรุงเทพฯ

เริ่มแล้ว! สำหรับ “บางกอก นฤมิตไพรด์” ขบวนพาเหรดเฉลิมฉลอง Pride Month ครั้งแรกของ กรุงเทพมหานคร เพื่อรณรงค์เรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศ เริ่มเดินตั้งแต่วัดแขก มุ่งหน้าไปสีลมซอย 2

วันนี้ (5 มิ.ย.2565) เริ่มตั้งขบวนกันตั้งแต่ช่วงบ่าย สำหรับพาเหรดเฉลิมฉลอง Pride Month ครั้งแรกของ กรุงเทพมหานคร กับกิจกรรมรณรงค์เรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศ ในชื่อ “บางกอก นฤมิตไพรด์” เริ่มต้นจากซอยสีลม 20 (ตรงข้ามวัดแขก) มุ่งหน้าซอยธนิยะ

บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักและสดใส จากการแต่งกายด้วยชุดหลากสีของ กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQ+ มาร่วมเดินขบวนในวันนี้ ซึ่งนอกจากการเรียกร้องเรื่องสมรสเท่าเทียมที่เคลื่อนไหวกันมาอย่างต่อเนื่องแล้ว ในขบวนยังมีกิจกรรมของกลุ่มผีเสื้อขยับปีก รณรงค์เรื่องปัญหาการคุกคามทางเพศ และกลุ่ม sex worker เสนอให้มีกฎหมายรองรับ เพื่อสวัสดิการ ป้องกันการหาผลประโยชน์อีกด้วย

ด้าน ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม.ที่ลงพื้นที่ติดตามความเรียบร้อยวันนี้ ระบุว่า งานไพรด์ เป็นตัวอย่างกิจกรรมแรก ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก จึงต้องมีการดูแลด้านสาธารณสุข โดยขอให้ผู้จัดงาน ปล่อยแถวแต่ละขบวนรอบละ 100 คน

เตรียมชง ศบค.ให้ กทม.ถอดแมสก์ที่โล่ง

ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ก็ได้ร่วมเดินขบวนในเทศกาลไพร์ดในวันนี้ด้วย ท่ามกลางการทักทายและขอถ่ายรูปจากประชาชนภายในงานที่เป็นไปอย่างเป็นกันเอง โดยนี่นับเป็นภารกิจช่วงเย็นวันนี้ หลังในช่วงเช้าผู้ว่าฯ กทม.ได้ร่วมพายเรือเก็บขยะ ที่แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักไม่ทิ้งขยะลงแม่น้ำลำคลอง และยังร่วมปลูกต้นไม้ที่สวนสาธารณะพระราม 8 เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลกด้วย

นอกจากนี้ นายชัชชาติ ยังเปิดเผยว่า เตรียมเสนอ กทม.ให้ถอดหน้ากากในพื้นที่เปิดโล่ง เพราะสถานการณ์โควิด-19 ใน กทม. เริ่มลดน้อยลง ขณะที่เศรษฐกิจกำลังกลับมา ซึ่งจะหารือเรื่องนี้อย่างเป็นทางการกับ ศบค.อีกครั้ง

ส่วนข้อเสนอเปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ ถึงเวลา 02.00 น. ขอรอดูผลในช่วงนี้ก่อน หลังเริ่มผ่อนคลายวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่พบปัญหา และเชื่อว่าหากมีมาตรการที่ชัดเจน ผู้ประกอบการก็พร้อมร่วมมือ

ด้านกระทรวงสาธารณสุข มีแนวโน้มเสนอ ศบค.พิจารณาถอดหน้ากากในพื้นที่โล่งแจ้ง ในกรณีที่มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลง ซึ่งอาจนำร่องในพื้นที่ สีเขียว และสีฟ้า

ทั้งนี้ ปัจจุบันพื้นที่สีเขียว 14 จังหวัด เช่น ชัยนาท, พิจิตร, อ่างทอง, น่าน แลัมหาสารคาม เป็นต้น ส่วนพื้นที่สีฟ้า 17 จังหวัด เช่น กรุงเทพฯ, กระบี่, กาญจนบุรี, จันทบุรี และชลบุรี เป็นต้น