เช้านี้ที่หมอชิต – ปัญหาการเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องในหลายจังหวัด อย่างที่จังหวัดกระบี่ พบแล้ว 16 คน ล่าสุดหญิงชราอายุ 71 ปี มีอาชีพขายขนมจีน มีรายได้วันนึงไม่กี่ร้อยบาท ถูกเรียกคืนเป็นเงินกว่า 50,000 บาท คุณยายจึงออกมาร้องขอความช่วยเหลือ
นางเรียม สุขวิทย์ อายุ 71 ปี แม่ค้าขายขนมจีนชาวตำบลทรายขาว อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ถูกเทศบาลตำบลทรายขาว เรียกคืนเบี้ยผู้สูงอายุย้อนหลัง เนื่องจากเธอได้รับเงินบำนาญของสามีที่เป็นอดีตตำรวจ และเสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ เมื่อปี 2521 โดยถูกผู้ก่อการร้ายในยุคนั้น บุกล้อมโรงพักแล้วยิงถล่มจนสามีเสียชีวิต หลังจากนั้นอีกกว่า 10 ปี เธอก็ได้รับเงินบำนาญของสามีเป็นเงินเดือนละประมาณ 9,000-10,000 บาท โดยเริ่มได้เงินบำนาญมาตั้งแต่ปี 2530 ต่อมาเมื่ออายุ 60 ปี ก็มีเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ นำเอกสารมาให้เซ็นเพื่อรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ซึ่งตอนนั้นเจ้าหน้าที่ไม่ได้สอบถามว่าได้รับสิทธิสวัสดิการอื่นใดอยู่หรือไม่
เธอบอกว่าได้รับเบี้ยผู้สูงอายุ ปีแรกเดือนละ 600 บาท จนอายุได้ 70 ปี ก็ขึ้นเป็นเดือนละ 700 บาท แต่หลังอายุ 70 ปี ได้รับเงินมา 2 เดือน เจ้าหน้าที่ก็แจ้งหยุดจ่ายเงิน เพราะขาดคุณสมบัติ และจะให้จ่ายคืนเป็นเงินกว่า 50,000 บาท ซึ่งเธอไม่มีปัญญาจะหาเงินมากขนาดนั้นมาให้ เพราะทุกวันนี้ต้องทำขนมจีนขาย มีกำไรวันละ 200-300 บาทเท่านั้น
ด้านปลัดเทศบาลตำบลทรายขาว กล่าวว่า นอกจากนางเรียมแล้ว ยังพบว่ามีผู้สูงอายุอีก 2 คน ที่ถูกเรียกคืนเบี้ยยังชีพ ยอดเงินตกคนละประมาณ 60,000 กว่าบาท อยู่ในขั้นตอนการแจ้งและเจรจากับผู้สูงอายุ ว่าจะผ่อนจ่ายคืนแบบใด เพื่อไม่ให้เดือดร้อน
ส่วนของ อบต.อ่าวนาง พบว่ามีผู้สูงอายุชาย 1 คน เป็นข้าราชการบำนาญ และทำบัตรผู้สูงอายุได้ประมาณ 5 ปี ได้เบี้ยยังชีพประมาณ 30,000 บาท หลังแจ้งไปว่าต้องจ่ายคืน ชายสูงอายุรายนี้ก็ยอมจ่ายคืนให้ โดยผ่อนจ่ายมาแล้ว 4 งวด เป็นเงินประมาณ 10,000 กว่าบาท
ขณะที่นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบพบว่ามีผู้ที่ต้องจ่ายเงินคืนจำนวน 12 คน เกือบทั้งหมดเป็นอดีตข้าราชการบำนาญที่เกษียณอายุราชการแล้ว แต่ได้ทำบัตรผู้สูงอายุ และมีการโอนเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้ เฉลี่ยคนละตั้งแต่หลักพันบาท ไปจนถึง 50,000 กว่าบาท ซึ่งมี 4 คนที่คืนเงินให้ครบแล้ว ส่วนที่เหลืออีก 8 คน มี 2 คนยอมผ่อนให้เดือนละ 600 บาท ที่เหลือทางเทศบาลฯ อยู่ระหว่างการเจรจาว่าจะให้จ่ายคืนแบบใด แต่ทั้งหมดก็ยอมจ่ายคืนโดยดี
ไปที่จังหวัดอุทัยธานีกันบ้าง เจ้าหน้าที่ อบต.หนองยาง เดินทางไปที่บ้านของ นางสนอง แสงแก้ว อายุ 70 ปี ผู้สูงอายุที่ถูกเรียกคืนเบี้ยยังชีพย้อนหลัง 8 ปี รวมเป็นเงินที่ต้องชำระคืน 58,800 บาท หลังตรวจพบว่าเป็นผู้มีสิทธิรับเงินบำนาญพิเศษ จากกรณีสามี ซึ่งเป็นทหารสังกัดกองทัพบก ถูกระเบิดเสียชีวิตขณะไปปฏิบัติหน้าที่ที่ สปป.ลาว เมื่อปี 2514 ต่อมาปี 2554 นางสนองเริ่มรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ซึ่งในตอนนั้นทาง อบต.หนองยาง เป็นผู้จ่ายเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุในพื้นที่โดยตรง จนมาเมื่อปี 2562 ได้ปรับเปลี่ยนการจ่ายเบี้ยยังชีพโดยตรงจากกรมบัญชีกลาง ทำให้มีการตรวจสอบพบว่านางสนองได้รับเงินบำนาญพิเศษอยู่ก่อนแล้ว
หลังได้รับฟังการอธิบายจากเจ้าหน้าที่แล้ว นางสนองก็อยากให้ทางราชการช่วยเหลือ เพราะปัจจุบันอายุมากแล้ว ไม่ได้ประกอบอาชีพ มีเพียงเก็บผักบุ้งขายกำละ 4 บาทเท่านั้น ส่วนเงินบำนาญของสามีตอนนี้ได้รับเดือนละ 10,000 บาท ซึ่งก็ต้องเอาไว้ใช้จ่าย
ตอนนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสภาทนายความ ล่าสุดพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลตอนนี้ มีผู้สูงอายุที่จะถูกเรียกเงินเบี้ยผู้สูงอายุคืนกว่า 15,000 คน และทางกระทรวงมหาดไทยจะเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาในส่วนนี้ด้วย