ภูมิภาค
หนุ่มขับรถบรรทุกน้ำจอดรถถามทาง ไม่ดึงเบรคมือไหลพุ่งชนร้านค้า-รถจยย.
วันเสาร์ ที่ 06 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564, 13.33 น.
คลิกที่นี่
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 6 ก.พ.64 ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองกระบี่ ประจำป้อมแหลมโพธิ์ รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถบรรทุกพุ่งเข้าไปชนร้านค้า และรถ จยย.ของชาวบ้านได้รับความเสียหาย มีผู้เสียหายหลายราย เหตุเกิดที่หน้าร้านขายของชำ ถนนแหลมโพธิ์พัฒนา 1 หมู่ 6 ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ จุดเกิดเหตุเป็นถนนเข้าหมู่บ้าน พบรถบรรทุกน้ำมัน ทะเบียน 81-0964 กระบี่ จอดนิ่งอยู่หน้าร้าน โดยสภาพด้านหน้าของรถ ชนเข้ากับร้านขายเครื่องดื่มริมทาง หลังคาร้านเสียหาย ข้าวของในร้านล้ม พังกระจายเต็มพื้น ใต้ท้องรถด้านหน้า มี จยย.ยี่ห้อฮอนด้าคลิ๊ก ทะเบียน 1 กค 1341 กระบี่ ถูกชนล้มอยู่ นอกจากนี้บริเวณล้อด้านหลังฝั่งซ้ายของรถ ยังมี จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำ ทะเบียน กยบ 560 กระบี่ ถูกชนล้มอยู่ด้วย
สอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์ ทราบว่า คนขับรถบรรทุกคือนายขจรศักดิ์ บุญคง อายุ 30 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี ยืนรอพบกับตำรวจอยู่ โดยให้การว่า เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเนื่องจากตนขับรถซึ่งบรรทุกน้ำจืดมาเต็มคัน จะนำไปส่งให้ที่ไซต์งานก่อสร้าง แต่จำเส้นทางไม่ได้ จึงจอดรถเพื่อลงมาถามทางจากชาวบ้าน แต่ยอมรับว่าลืมดึงเบรคมือเอาไว้ เพราะเห็นว่าถนนไม่ได้เป็นทางลาดมากนัก ลงมาถามได้ไม่ถึง 1 นาที หันกลับไปอีกที ก็พบว่ารถเริ่มไหลลงไปตามถนนช้า ๆ ตนก็รีบวิ่งกลับไปที่รถทันที เพื่อพยายามจะขึ้นไปเบรคหยุดรถ แต่ไม่ทันเพราะน้ำหนักรถ และน้ำหนักน้ำจืดที่บรรทุกมา ทำให้รถไหลเข้าไปทางร้านค้า และชนเข้ากับรถ จยย.ของคนที่มาจอดซื้อของ แต่ตนพยายามกดเบรครถไว้ได้ตอนมาถึงหน้าร้านค้าพอดี หากช้าอีกนิดเชื่อว่าน่าจะชนร้านค้าพัง แต่ก็ยอมรับในความสะเพร่า และติดต่อให้ทางบริษัทเจ้าของรถทราบแล้ว เพื่อเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย
ขณะที่นายสมสิทธิ์ ปฏิมินทร์ อายุ 70 ปี หนึ่งในเจ้าของ รถ จยย.ที่ถูกชนเสียหาย เล่าเหตุการณ์ว่า ตอนก่อนเกิดเหตุ ตนขี่รถ จยย.มาจอดที่ร้านค้า ซึ่งเป็นร้านของญาติกัน เพื่อจะนั่งพูดคุยเหมือนปกติ โดยนั่งกันอยู่ 3-4 คน และกำลังจะกลับอยู่แล้ว แต่ระหว่างนั้นเห็นรถบรรทุกคันดังกล่าว พุ่งเข้ามาที่หน้าร้าน และชนรถของตนจนล้มลง และยังพุ่งไปชนเข้ากับหลังคาหน้าร้าน จนหลังคาร้านทั้งแผงสั่นสะเทือนไปหมด ตนและเพื่อนที่นั่งคุยกันอยู่ ตกใจคิดว่าจะพังถล่มลงมา กำลังจะลุกวิ่งหนีกันแล้ว แต่รถก็หยุดนิ่งก่อน จึงโชคดีที่ร้านไม่พังไปมากกว่านี้ และไม่มีคนได้รับบาดเจ็บ.
คลิกที่นี่