หลังตัดจบแบบสุดเจ็บไปแล้ว สำหรับไทยลีก 3 พร้อมกับดราม่า “โซนเหนือ” และ “โซนกรุงเทพฯ” แต่ที่สุดก็ได้ 12 ทีมเข้าสู่รอบแชมเปี้ยนส์ลีก เพื่อหา 3 ทีมสุดท้าย เลื่อนชั้นขึ้นสู่ ไทยลีก 2 ในฤดูกาลหน้า
โดยการตัดสินสุดท้ายในโซนปัญหาคือการเตะ “เพลย์ออฟ” นัดเดียวรู้เรื่อง ผลออกมาด้วยชัยชนะแบบเฉียดฉิวของ “พิษณุโลก เอฟซี” และการยิงถล่มคู่แข่งของ “บางกอก เอฟซี” ปัญหาเลยจบแบบไม่น่าจะติดใจ
ในที่สุด 12 ทีมสุดท้ายประกอบด้วย โซนบน ลำพูน วอริเออร์, พิษณุโลก เอฟซี, อุดร ยูไนเต็ด, เมืองเลย ยูไนเต็ด, ปลวกแดง ยูไนเต็ด และ ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี
โซนล่าง คือ เมืองกาญน์ ยูไนเต็ด, ราชประชา, มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ, บางกอก เอฟซี, สงขลา เอฟซี และ กระบี่ เอฟซี
จากจำนวน 12 ทีม ต้องยอมรับว่าปีนี้ถือว่าสูสีและเป้าหมายของแต่ละทีม ถือว่าชัดเจนใจการ “เลื่อนชั้น” ทำให้การคัดเลือก “3 ทีม” เข้มข้นแน่นอน
หากมองถึงความพร้อมและขุมกำลัง ถือว่าไม่ต่างกันมาก ลองมาวิเคราะห์เจาะความพร้อมว่าทีมใดที่มีโอกาสเลื่อนชั้นขึ้นสู่ ไทยลีก 2 ในฤดูกาลหน้า
ในโซนบน ผลงานที่เปรี้ยงปร้างต้องยกให้ “ราชันโคขาว” ลำพูน วอริเออร์ และ “จิ้งจอกอีสาน” อุดร ยูไนเต็ด
“ลำพูน วอริเออร์” เข้ารอบมาเป็นอันดับหนึ่งของภาคเหนือ “ราชันโคขาว” ยอดทีมจากเมือง “หละปูน” ทำผลงานได้สม่ำเสมอ แข่ง 15 นัด ชนะถึง 13 และเสียแค่ 6 ประตู น้อยที่สุดในไทยลีก 3 “โค้ชปอนด์” จงสฤษดิ์ วุฒิช่วย จัดทีมได้อย่างลงตัวสุด
ขุนพลเด่นนำโดยกัปตันทีมมากประสบการณ์ “อดุล หละโสะ” กองกลางอดีตทีมชาติไทย, ธนา ศรีพันดร นักเตะที่ผ่านการค้าแข้งในเมืองไทยมาอย่างโชกโชน ร่วมกับนักเตะต่างชาติ นาธาน โอลิเวียร่า กองหน้าชาวบราซิลดาวซัลโวประจำทีมที่ยิงไปแล้ว 12 ประตูในรอบแบ่งโซน อังเดร หลุยส์ ไลเต้ อีกหนึ่งแนวรุกชาวบราซิล ที่เคยผ่านเวทีไทยลีกมาแล้ว
ด้วยขุมกำลังและประสบการณ์ของ “โค้ชปอนด์” จงสฤษดิ์ กุนซือที่ประสบการณ์สูงในการคุมทีมสู้ศึกในรอบแชมเปี้ยนส์ลีกมาแล้วจากหลายสโมสรทำให้มองกันว่า “ลำพูน วอริเออร์” น่าจะติด 1 ใน 2 ของโซนบน
อีกทีมต้องจับตานั่นคือ “จิ้งจอกอีสาน” อุดร ยูไนเต็ด แชมป์จากโซนอิสาน ด้วยผลงานลือลั่นยิงกระจาย 63 ประตู มากสุดในไทยลีก 3 และไม่พ่ายแพ้เพลี่ยงพล้ำให้กับทีมใด
“โค้ชต้น” สุกฤษฎิ์ โยธี สรรสร้างเกมบุกให้กับลูกทีมอย่างดุดัน จากทีมที่ไม่คาดหวัง แต่ด้วยผลงานในรอบแบ่งโซนกลายเป็นทีมเต็งขึ้นมาโดยทันที
จาก “ยูดี หนองหาน” ทีมในไทยแลนด์ อะเมเจอร์ลีก ก่อนเข้ามาเล่นในไทยลีก 4 ด้วยอานิสงการรวมลีกจึงร่วมโม่แข้งในไทยลีก 3 แถมมีพันธมิตรที่แน่นแนบอย่าง “หนองบัว พิชญ” ทำให้ “จิ้งจอกติดปีก” เป็นทีมที่น่ากลัวขึ้นมาทันที
“จิ้งจอกอีสาน” อุดร ยูไนเต็ด แม้เป็นทีมน้องใหม่ เข้าแข่งขันลีกอาชีพเป็นปีแรกแต่ขุมกำลังกลับมากประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็น จักราวุธ สงมา, อำไพ มุธาพร, ชาวิน ธีรวัจน์ศรี, วีระยุทธ ศรีวิชัย, รชานนท์ กันยาทอง, กิตติพงษ์ วงมา และนักเตะที่เพิ่งย้ายมาร่วมทัพในเลกที่ 2 อย่าง นพรัตน์ สกุลอ๊อด ปราการหลังจอมเก๋า
สามารถติดตามโปรแกรมและผลการแข่งขันสดๆได้ที่นี่ : SMMSCORE
ติดตามอัปเดตตารางคะแนนได้ที่นี่ : ตารางคะแนนT3
นอกจากนี้ยังมีนักเตะต่างชาติอย่าง จาร์เดล คาปิสทราโน่ กองหน้าชาวบราซิลที่ยิงไปแล้ว 22 ประตู นำเป็นดาวซัลโวของโซนรวมถึงไทยลีก 3 อยู่ในเวลานี้ รวมถึงอีก 2 นักเตะเพื่อนร่วมชาติอย่าง อังเดร คูตินโญ่ กองกลาง และ โจซิมาร์ ดา ซิลวา กองหลัง
ชื่อชั้นอาจไม่เด่น แต่ฟอร์มและขุมกำลัง อย่ามองข้าม “อุดร ยูไนเต็ด”
ส่วนทีมที่มีโอกาสสอดแทรก ต้องยกให้ “ปลวกแดง ยูไนเต็ด” แชมป์โซนตะวันออก ของ “โค้ชลิง” วิมล จันทร์คํา ที่พาทีมพ่ายแค่ 2 นัดในรอบแบ่งโซน
จากเดิม “ระยอง ยูไนเต็ด” ที่เคยโลดเล่นอยู่ใน ดิวิชั่น 1 หรือ ไทยลีก 2 ในปัจจุบัน กระทั่งมาเป็น “ปลวกแดง ยูไนเต็ด” ทีมยังมีเป้าหมายเช่นเดิมคือการเลื่อนชั้น
นอกจากชื่อชั้นของ “โค้ชลิง” ที่ไม่ธรรมดายังมีขุมกำลังที่น่าจับตามองอย่าง จักรพงษ์ สมบูรณ์ แข้งจอมเก๋าที่ผ่านประสบการณ์เวทีไทยลีก รวมถึง อภิรัตน์ หีมขาว และ อนุรักษ์ ยืนหาร ตัวรุกที่ซัดไปแล้ว 10 ประตู
แถมมีแข้งต่างชาติอย่าง อัลแบร์โต โมไรร่า กองกลางชาวบราซิล และดาวซัลโวประจำทีมด้วยผลงาน 11 ประตู จึงทำให้ “ช้างศึกคะนอง” เป็นทีมที่ไม่ควรมองข้าม
ในขณะที่ “พิษณุโลก เอฟซี” ที่เข้ารอบด้วยการเพลย์ออฟเฉือน “แม่โจ้ ยูไนเต็ด” รวมถึง “เมืองเลย ยูไนเต็ด” และ “ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี” ก็ล้วนของยากที่ทีมใดจะมาปราบง่ายๆ โดยเฉพาะ “ปลากัดนักสู้” ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี ทีมขาประจำในรอบแชมเปี้ยนส์ลีก ทำผลงานสุดสะเด่าชนะรวด 6 นัดล่าสุดในบ้าน สามารถสร้างปัญหให้กับทุกทีม
มาดูกันในโซนล่าง ถือเป็นการต่อสู้ที่สูสี สามารถพลิกออกได้ทุกหน้า ไมว่าจะเป็น เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด, สงขลา เอฟซี, กระบี่ เอฟซี และ ราชประชา ในขณะที่ นอร์ทกรุงเทพ และ บางกอก เอฟซี ก็พร้อมจะพลิกได้ทุกนัด
หากจะให้เลือกทีมทีมีโอกาสก็ต้องมองที่ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด, สงขลา เอฟซี โดยมี ราชประชา และ กระบี่ เป็นตัวสอดแทรก
“เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด” จริงจังกับการเลื่อนชั้นมาก นับตั้งแต่รับแชมป์โซนตะวันตก กลับเรียกเสียงฮือฮาโดยการเปลี่ยนโค้ชจาก “โค้ชโป้ง” กฤษณ์ สิงห์ปรีชา กลายมาเป็น “จเด็จ มีลาภ”
ในส่วนของขุมกำลังถือว่าอัดแน่นได้ด้วยแข้งมีดีกรี ไม่ว่าจะป็น “กัปตันกบ” สุเชาว์ นุชนุ่ม แนวรับอย่าง “กรวิทย์ นามวิเศษ” แถมองค์ประกอบทีมอุดมไปด้วยแข้งมีดีกรี อาทิ ชาคริต ระวันประโคน, มนตรี พรหมสวัสดิ์, รัฐศักดิ์ เวียงอินทร์, ณภัทร ธำรงศุภกร และจอมเก๋า ยุทธนา เรืองสุขสุด และ สันติราษฎร์ เวียงอินทร์
ล่าสุด “เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด” เป็นทีมเดียวในไทยลีก 3 ที่เข้ารอบ 16 ทีมฟุตบอล เอฟเอคัพ หลังคว่ำทีมนำไทยลีก 2 “หนองบัว พิชญ” มาได้สำเร็จ
คุณภาพนักเตะ และคุณภาพโค้ช ทำให้ “เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด” มีลุ้นเลื่อนชั้นอย่างไม่น่าสงสัย
อีกทีมที่ถือว่าน่าลุ้นคือแชมป์โซนใต้ “เงือกสมิหลา” สงขลา เอฟซี ของโค้ชโดนัท อัคถภรณ์ ชลิตาภรณ์
ด้วยสไตล์การเล่นที่สวยงามและเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพทำให้ “สงขลา เอฟซี” ทำผลงานได้ต่อเนื่อง จนก้าวถึงรอบแชมเปี้ยนส์ลีก พร้อมเป้าหมายชัดเจนคือการเลื่อนชั้น
ล่าสุดคือการเติม แข้งมากประสบการณ์อดีตทีมชาติไทยอย่าง “ชลทิตย์ จันทคาม” มาเสริมแนวรับ
“เงือกสมิหลา” สงขลา เอฟซี ทีมยักษ์หลับที่รอความยิ่งใหญ่ ครั้งหนึ่งเคยสร้างประวัติศาสตร์ในการพบกับ “บุรีรัมย์ เอฟซี” ในการแย่งขึ้นชั้นลีกสูงสุด จนล้นสนามติณสูลานนท์ ด้วยผู้ชมเกือบสี่หมื่นคน ก่อนทีมตกต่ำลงจนถึงอเมเจอร์ลีก ก่อนกลับมาอยู่ในไทยลีก 4 เมื่อควบรวมไทยลีก 3 “สงขลา เอฟซี” สร้างทีมจนผลงานโดดเด่นและเป็นทีมลุ้นขึ้นไทยลีก 2 อย่างเต็มตัว
ขุนพลในทีมเน้นใช้นักเตะพื้นที่เป็นหลัก ผสมกับตัวเก๋ามากประสบการณ์อย่าง ชลทิตย์ จันทคาม, ณัฐพล เทพอุทัย, วสันต์ สมานสินธุ์, ยศวรรธน์ มนทา หรือชื่อเดิมว่า ทศพล ยอดจันทร์
ทำให้ “สงขลา เอฟซี” จัดอยู่ในกลุ่มทีมเต็ง
แต่อย่ามองข้ามทีมที่มีโอกาสสอดแทรกอย่าง “อินทรีอันดามัน” กระบี่ เอฟซี ทีมที่เคยบินสูงมาก่อน จากต้นฤดูกาลที่ประกาศไม่ส่งทีม กลับกลายเป็นทีมเต็งที่น่าจับตา ผลงานในรอบโซนพ่ายมา 2 นัด แต่มีการปรับจูนด้วยการดึง “มิสเตอร์แชมเปี้ยนส์ลีก” ชูศักดิ์ ศรีภูมิ กุนซือดังมาทำทีมเพื่อหวังเลื่อนชั้น
พร้อมขุมกำลังอย่าง โคเน่ เซย์ดู ดาวเตะต่างชาติที่ค้าแข้งในเมืองไทยมาอย่างยาวนาน จอร์จ เคลเบล ดาวซัลโวประจำทีม ผลลาน 15 ประตู อิทธิพล แก้วเขียว แข้งจอมเก๋าของไทยลีก อภิชาติ เด็นหมาน อดีตกองหน้า “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด”
ด้วยขุมกำลังและกุนซือมากประสบการณ์ทำให้ “อินทรีอันดามัน” กระบี่ เอฟซี เป็นทีมที่น่าจับตามอง
อีกทีมมาในฐานะทีมแชมป์โซนกรุงเทพฯ “อาชาผยอง” ม.นอร์ทกรุงเทพ อยู่ภายใต้การคุมทัพของ “โค้ชแบงค์” ดำรงศักดิ์ บุญม่วง
ทีม ม.นอร์ทกรุงเทพ ทำผลงาน แข่ง 20 นัด แพ้แค่ 2 นัด มีนักเตะเด่น อาทิ วีรยุทธ จิตรขุนทด, ชโนทัจน์ พิพัฒน์มงคลชัย และ ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์
ทีม “อาชาผยอง” เป็นอีกทีมที้เรียกว่าเป็นขาประจำในรอบนี้ แม้จะไม่ผ่านในรอบสุดท้าย แต่เป็นทีมที่ประมาทไม่ได้ ชโนทัจน์ พิพัฒน์มงคลชัย ดาวซัลโวประจำทีมถือว่าร้อนแรงยิงไปแล้ว 7 ประตูในรอบแบ่งโซน
และอีกทีมก็ไม่น่าแปลกใจหากจะเลื่อนชั้น นั่นคือ “ราชประชา เอฟซี” ทีมพันธมิตรของ “บีจี ปทุม ยูไนเต็ด” ทีมของ “โค้ชเจ” จักรกริช บุญคํา สร้างผลงานยอดเยี่ยมในโซนตะวันตก ลงสนาม 17 นัด แพ้แค่ 2 นัด
ส่วนนักเตะมีแนวรุกจอมเก๋าอดีตแชมป์ไทยลีกจากยุคการไฟฟ้า “รณชัย รังสิโญ” รวมถึง “ต๊ะ” ศุภเสกข์ ไก่แก้ว แข้งจอมเก๋าวัย 34 ปี
แถมมีตัวนอก แองเจลโล่ มาชูก้า กองกลางชาวปารากวัยที่ทำไป 6 ประตูในรอบแบ่งโซน
ด้วยความพร้อมและตัวผู้เล่นที่เรียกได้ว่าไม่แตกต่างกันมาก ทำให้โซนล่างถือเป็นกลุ่มหินที่สามารถพลิกออกได้ทุกหน้า ก็ต้องลุ้นกันนัดต่อนัดเลยทีเดียว
ถึงรอบนี้การต่อสู้เพื่อแย่งแชมป์แต่ละโซน เพื่อขึ้นสู่ไทยลีก 2 โดยอัตโนมัติ ส่วนทีมอันดับสองของแต่ละกลุ่มมาสู้กันต่อในการชิงอันดับสาม เพื่อหาอีกที่ว่างเดียว
ศึกแชมเปี้ยนส์ลีกในยุค “โควิด” ดูแล้วไม่ง่ายและสูสีมากจริงๆ
สามารถติดตามโปรแกรมและผลการแข่งขันสดๆได้ที่นี่ : SMMSCORE
ติดตามอัปเดตตารางคะแนนได้ที่นี่ : ตารางคะแนนT3