วันที่ 19 ก.พ. 64 เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดของผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่สนธิกำลังระหว่าง ตชด.ที่ 426 กระบี่ กอ.รมน.กระบี่ นำโดย ร.ต.อ.นิพนธ์ หนูชัยแก้ว หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด ตชด.42 นำกำลังจับกุมนายไตรรงค์ หรือรง เงินเลี่ยม อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/1 หมู่ที่ 10 ตำบลแก้วแสน อำเภอนาบอน จังหวัดนครศรีธรรมราช และนายเจรวัฒน์ หรือเปิ้ล แก้วศรีนวล อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ที่ 5 ตำบลชะมาย อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ขณะอยู่ในบ้านเช่าเลขที่ 47/15 ซอยชุมชนหมู่บ้านพัฒนา ตำบลปากแพรก อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
จากการตรวจค้นนายไตรรงค์ พบยาบ้าจำนวน 1 พันเม็ด อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 8 นัด จากนั้นจึงคุมตัวมาสอบสวนที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตชด.ที่ 42 ซึ่งนายไตรรงค์ รับสารภาพว่า ยังมียาบ้าซุกซ่อนอยู่ที่รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้าสีขาว ทะเบียน ผต 2298 นครศรีธรรมราช ของตนอีก 2 จุด คือใต้กันชนหน้ารถพบยาบ้าอีก 2 พันเม็ด และภายในเครื่องกรองอากาศของห้องเครื่องรถอีก 1,029 เม็ด ยาไอซ์ 3.9 กรัมด้วย
จากการสอบสวนนายไตรรงค์ ยังบอกว่า ยังมียาบ้าของเครือข่ายตนอีก เจ้าหน้าที่จึงวางแผนและเข้าทำการสกัดรถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ทะเบียน กธ 7131 นครศรีธรรมราช ขณะที่นายวงศ์กะพันธ์ หรือเป้ นาคสีทอง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131/4 หมู่ที่ 9 ตำบลทุ่งสง อำเภอนาบอน จังหวัดนครศรีธรรมราช ขับรถคันดังกล่าวผ่านมาบริเวณถนนสาย 41 ตำบลนาโพธิ์ อ.ทุ่งสง ซึ่งตรงกับที่นายไตรรงค์ให้การ เข้าตรวจค้นในรถพบยาบ้าจำนวน 2 พันเม็ดซุกซ่อนอยู่ จึงคุมตัวนายวงศ์กะพันธ์ มาสอบสวนและยอมรับว่า ได้ฝากยาบ้าไว้ที่นายขจรศักดิ์ หรือโจ้ เชื้อหมอเฒ่า อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ที่ 2 ตำบลทุ่งสง อำเภอนาบอน จังหวัดนครศรีธรรมราช อีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้ให้นายวงศ์กะพันธ์โทรหา และนัดนำยาบ้ามาส่งให้ริมถนนหน้าบ้านของนายขจรศักดิ์ ซึ่งเมื่อนายขจรศักดิ์ เห็นเจ้าหน้าที่ถึงกับร่ำไห้พร้อมบอกว่ายาบ้านั้นไม่ใช่ของตนแต่นายวงศ์กะพันธ์ ได้นำมาฝากไว้ เป็นยาบ้าอีก 8 พันเม็ด ยาไอซ์ 93.4 กรัม รวมยาบ้าที่ยึดได้ 14,029 เม็ด ยาไอซ์ 101.3 กรัม โทรศัพท์มือถือ7 เครื่อง อาวุธปืน 1 กระบอก รถยนต์ 2 คัน รถ จยย. 1 คัน
ผู้ต้องหาทั้ง 4 ให้การรับสารภาพร่วมกันค้ายาบ้าและยาไอซ์จริง เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า,ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และแจ้งเพิ่มเติมกับ ผู้ต้องหาที่ 1 ว่า “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร ก่อนนำตัวส่ง พงส.สภ.ทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน ร.ต.อ.นิพนธ์ หนูชัยแก้ว หัวหน้าชุดปราบปราม ระบุว่า แก๊งค้ายาบ้ารายนี้เป็นเครือข่ายใหญ่ที่รู้จักกันในกลุ่มค้ายาบ้าว่า รงแก้วแสน ซึ่งมีนายไตรรงค์เป็นหัวหน้าแก๊ง เพิ่งพ้นโทษในคดียาเสพติดมาได้ประมาณปีกว่า โดยจะส่งยาบ้าในพื้นที่ 3 จังหวัดคือ กระบี่ นครศรีธรรมราช และสุราษฏร์ธานี ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ อ.เขาพนม และ อ.ลำทับ จ.กระบี่ ได้หลายราย และให้การเหมือนกันว่า รับยาบ้ามาจากเครือข่ายรงแก้วแสน จนสืบสวนทราบชื่อและที่อยู่ของนายไตรรงค์อย่างชัดเจน จากนั้นจึงนำกำลังจาก จ.กระบี่ มาร่วมกับชุดปราบปรามที่ ตชด.ที่ 42 ทุ่งสง เข้าปฏิบัติการจับกุมเครือข่ายนี้ได้ 4 คน พร้อมของกลางดังกล่าว สำหรับเครือข่ายนี้รับยาบ้ามาจากเครือข่ายของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นรายใหญ่อีกทอดหนึ่งที่จะรับยามาจากประเทศเพื่อนบ้านโดยตรง โดยเครือข่ายนี้รับยาบ้ามาเม็ดละ 9 บาท ส่งขายต่อเม็ดละ 17.50 บาทเท่านั้น