สามีภรรยานั่งดื่มเหล้ากัน ดื่มไปดื่มมาเมาทั้งคู่ แล้วเกิดมีปากเสียงกัน ฝ่ายภรรยาเดินเข้าไปในครัว แล้วหยิบครกปาใส่ศีรษะสามีจนสลบไปทั้งคืน พอตื่นมาตอนเช้าเห็นสามีนอนแน่นิ่งไปก็เข้าใจว่าสามีเสียชีวิตแล้ว จึงไปบอกเพื่อนบ้าน แต่สุดท้ายปรากฏว่าสามียังไม่เสียชีวิต
ตำรวจ สภ.ลำทับ จังหวัดกระบี่ ได้รับแจ้งว่า มีคนถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส ในพื้นที่บ้านนาพรุ ตำบลลำทับ อำเภอลำทับ ที่เกิดเหตุพบรอยเลือดจำนวนมากอยู่บริเวณพื้นหน้าบ้าน ผนังบ้าน และบนแคร่ในบ้าน ในที่เกิดเหตุพบครกหินแตกเป็น 2 ชิ้น ตกอยู่บนพื้น ส่วนคนเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยมีบาดแผลที่ศีรษะเลือดอาบไปทั่วทั้งตัว อาการสาหัส
หญิงอายุ 58 ปี ยืนรอตำรวจอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ ให้การว่า ตนเองเป็นคนลงมือทำร้ายสามี โดยก่อนเกิดเหตุนั่งดื่มเหล้ากับสามีอายุ 56 ปี ภายในบ้านพัก ขณะนั้นก็เกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน เนื่องจากสามีนำเงินไปซื้อเหล้าจนหมด ไม่เหลือไว้เลย ตนจึงโมโห เข้าไปหยิบครกในครัวมาขว้างใส่สามีจนศีรษะแตก เลือดอาบ จากนั้นก็นอนอยู่ในบ้านทั้งคืน กระทั่งรุ่งเช้าตื่นมาอีกทีพบว่าสามีนอนแน่นิ่งจมกองเลือด จึงไปแจ้งเพื่อนบ้านว่าได้ฆ่าสามีเสียชีวิตแล้ว ก่อนที่เพื่อนบ้านจะแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยเหลือ และพบว่ายังมีชีวิตอยู่ จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
จากการสอบถามเพื่อนบ้าน ทราบว่า สามีภรรยาคู่นี้มักจะนั่งดื่มเหล้ากันเป็นประจำทุกวันในช่วงเย็น และมีปากเสียงทะเลาะกันบ่อยครั้ง ซึ่งทุกครั้งภรรยาจะเป็นฝ่ายทำร้ายสามี แต่ไม่ได้รุนแรงเหมือนครั้งนี้ ตำรวจจึงควบคุมตัวภรรยาไปสอบสวน และดำเนินคดีตามกฎหมาย
ความคืบหน้าล่าสุด ชายอายุ 56 ปี อาการปลอดภัยแล้ว และแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ตนเองไปรับจ้างได้เงินมา 4,000 บาท และใช้หนี้ไป 2,500 บาท ที่เหลือก็นำมาให้ภรรยาทั้งหมด แต่เกิดมีปากเสียงกัน โดยภรรยาใช้มีดพร้าฟันครกจนแตก จากนั้นก็หยิบครกมาปาใส่ตนจนศีรษะแตก และสลบไป โดยภรรยาอ้างว่าไม่ทราบว่าปาถูกศีรษะของสามี จนต่างคนต่างแยกย้ายกันนอน ภรรยานอนในบ้าน ตนนอนที่แคร่นอกบ้าน กระทั่งรุ่งเช้าภรรยาออกมาเห็นสามีเลือดอาบเต็มหน้า ก็ตกใจคิดว่าเสียชีวิตแล้ว จึงรีบไปบอกเพื่อนบ้านให้มาช่วยเหลือ
หลังเกิดเหตุ ภรรยาก็ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวให้มาเจรจากัน ซึ่งทั้ง 2 คน ก็สามารถตกลงกันได้ โดยฝ่ายสามีบอกว่า ไม่เอาเรื่องภรรยา เพราะตนเชื่อว่าที่ภรรยาทำไปเพราะเมา อีกทั้งอยู่กินกันนานแล้ว แต่ขอแค่อย่าให้ทำแบบนี้อีก