หลังอำลาบทบาทพ่อค้าแข้ง ที่กรำศึกมาทั้ง ในและต่างประเทศ ทั้ง โอสถสภาฯ, เซมบาวัง (เอสลีก ) , ตันจง ปาร์กา (เอสลีก ) ,ด่องไน ( เวียดนาม ) , ตำรวจ , กระบี่ โดยกับทีม “ห้างขายยา” โอสถสภา ฯ นั้นน่าจะเป็นเหมือนบ้านของเขาเพราะเล่นเป็นระยะเวลานานสุดกับ 3 คำรบ หนแรก ปี พ.ศ. 2534-2542 ,หนที่ 2 ระหว่าง ปี พ.ศ. 2546-2548 และหนสุดท้าย พ.ศ. 2550 ไม่รวมถึงการรับใช้ชาติมาระดับตำนานนักเตะทีมชาติไทยอีกคน ที่ติดครบทุกรายการ ระหว่าง ปี พ.ศ. 2536 -2547
เมื่อปี พ.ศ. 2552 “โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล ในวัย 35 ปี เริ่มต้นท่องยุทธจักร ในฐานะโค้ชฟุตบอลหลัง อำลาชีวิตนักเตะ เริ่มจาก เชียงราย ยูไนเต็ด พ.ศ. 2552 , พัทยา ยูไนเต็ด พ.ศ. 2553, เพื่อนตำรวจ ระหว่าง ปี พ.ศ. 2554-2557
แบงค็อก ยูไนเต็ด พ.ศ. 2557 , ชัยนาท ฮอร์นบิล พ.ศ. 2558 ,นครปฐม ยูไนเต็ด พ.ศ. 2559 และล่าสุดคือ พีที ประจวบ เอฟซี ปี พ.ศ. 2559-2564
ก่อนจะจากกันด้วยดีหลังเสร็จภารกิจ พาทีมอยู่รอดสำเร็จ กระทั่งได้งานใหม่ ในฐานะแม่ทัพใหญ่ของ “พญาไก่ชน ” หนองบัวพิชญ เอฟซี แชมป์ไทยลีก 2 ฤดูกาล 2020 ที่ผ่านมา ที่จะก้าวมาเล่นไทยลีก 1 เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร งานนี้ไม่น่าจะเป็นภารกิจที่ยากเย็นของ “วังลันตา” หนุ่มจากกระบี่ เพราะประสบการณ์ของเขาถือว่าไม่ธรรมดา
อีกทั้ง หนองบัวฯ ไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้สูง ขอแค่ไม่ตกชั้นเป็นพอกับการประเดิมไทยลีก 1 หนแรก เท่านั้น ทั้งขุมกำลังที่ “พญาไก่ชน” มีใช้งานอยู่ ถือว่าไม่ขี้เหร่ เล่นลีกสูงสุดของไทยได้สบาย
ทีมที่ 8 ในการเป็นกุนซือใหญ่ของ”โค้ชวัง” จะไปได้สวยหรือไม่ ฤดูกาล 2021 มีคำตอบให้กุนซือผู้นี้แน่นอน
Add friend ที่ @Siamsport