ยอดติดโควิดลดเหลือ 11,786 ราย เสียชีวิต 136 ราย “สธ.” ห่วงคลายล็อกคนการ์ดตก เดือน ต.ค.ยอดกลับมาพุ่งอีก “บิ๊กตู่” มอบ ศบค.ชุดเล็กถกเปิดท่องเที่ยว “เกาะพยาม” เชื่อมภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ “รมว.การท่องเที่ยวฯ” ยันเปิดประเทศตามแผน 1 ต.ค.ให้เที่ยวได้ใน 5 จว. เตรียมคุย “อัศวิน” หาทางเปิด กทม. “ทำเนียบฯ” ผวา! เจอสื่อติดโควิด สั่งออกจากพื้นที่หวั่นแพร่เชื้อผู้บริหารอาวุโส ขอเคลียร์ก่อนให้เข้ามาใหม่ 24 ก.ย.นี้
เมื่อวันที่ 14 กันยายน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,786 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 11,510 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 10,345 ราย ค้นหาเชิงรุก 1,165 ราย และจากเรือนจำ 271 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 5 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 1,406,542 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 14,738 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสม 1,262,896 ราย อยู่ระหว่างรักษา 129,025 ราย อาการหนัก 4,080 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 818 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 136 ราย เป็นชาย 78 ราย หญิง 58 ราย ในจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และมีโรคเรื้อรังรวมกันถึงร้อยละ 92 โดยเป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 96 ราย คิดเป็นร้อยละ 71 มีโรคเรื้อรัง 28 ราย คิดเป็นร้อยละ 21 ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 14,621 ราย ส่วนสถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 226,103,733 ราย เสียชีวิตสะสม 4,652,637 ราย โดยประเทศไทยมียอดติดเชื้อสะสมอยู่อันดับที่ 29 ของโลก
สำหรับ 10 อันดับแรกของผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ คือ กทม. 2,788 ราย ชลบุรี 955 ราย สมุทรปราการ 811 ราย สมุทรสาคร 542 ราย นนทบุรี 482 ราย ราชบุรี 314 ราย ปราจีนบุรี 296 ราย สงขลา 272 ราย นราธิวาส 262 ราย และสุราษฎร์ธานี 252 ราย
นพ.เฉวตรสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การลดลงของผู้ติดเชื้อเป็นไปตามคาดของกรมควบคุมโรค แต่ยังต้องมีการเฝ้าระวังหลังจากมีการปรับมาตรการต่างๆ เพราะประชาชนมีการไปพบปะผู้คน อาจจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อโดยไม่รู้ตัวได้ และในเดือน ต.ค.คาดว่าอาจจะพบตัวเลขผู้ติดเชื้อกลับมาสูงขึ้นอีกได้ จากปัจจัยในการคลายล็อกที่นำไปสู่พฤติกรรมเสี่ยง การรวมตัวเป็นกลุ่ม และยังมีการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมยังไม่สูง
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมได้หารือความเป็นไปได้ในการเปิดพื้นที่การท่องเที่ยวเพิ่มเติมจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่ครอบคลุมเกาะสมุยและเกาะในจังหวัดพังงาและกระบี่ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ได้รายงานผลการลงพื้นที่ จ.ระนอง และข้อเสนอของภาคเอกชนที่ต้องการให้มีการเชื่อมต่อภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์กับเกาะพยาม เนื่องจากเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจมาก และเป็นพื้นที่ปิดมีประชากรบนเกาะไม่มาก สามารถบริหารจัดการตามมาตรการสาธาาณสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กรับไปพิจารณาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันศุกร์ที่ 17 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์มีภารกิจเดินทางไปตรวจราชการจังหวัดชลบุรี โดยในเวลา 10.00 น. นายกฯ พร้อมคณะจะเดินทางไปที่บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ จำกัด (แหลมฉบัง) ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อตรวจติดตามการดำเนินโครงการ Factory Sandbox ของบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ จำกัด (แหลมฉบัง) โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานและในฐานะ ส.ส.ชลบุรีให้การต้อนรับ โดยโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีจะกล่าวมอบนโยบาย พร้อมตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนโครงการ Factory Sandbox ก่อนพบปะหารือร่วมกับนายกสมาคมนักลงทุนชาวญี่ปุ่นและผู้บริหารสมาคมในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและระยอง
ขณะที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงความคืบหน้าแผนการเปิดประเทศว่า ยืนยันในวันที่ 1 ต.ค.นี้จะเปิดให้มีการท่องเที่ยวใน 5 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี, เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์ และเชียงใหม่ ซึ่งเป็นไปตามแผนที่เคยประกาศไว้ล่วงหน้า ส่วนจังหวัดที่เหลือยังจะเดินตามแผนให้เปิดให้ท่องเที่ยวได้ใน 21 จังหวัดในวันที่ 15 ต.ค.นี้
“โครงการเราเที่ยวด้วยกันและทัวร์เที่ยวไทย เราจะประกาศให้มีการดาวน์โหลดได้ในวันที่ 24 ก.ย.นี้ และคาดว่าจะสามารถใช้เดินทางได้ในวันที่ 15 ต.ค.นี้เช่นกัน จากนั้นจะหารือกับนายกรัฐมนตรีว่าจะเปิดให้มีการท่องเที่ยวในจังหวัดที่เหลือได้อีกเมื่อไหร่” นายพิพัฒน์กล่าว
ถามถึงอุปสรรคในการเปิดประเทศ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬากล่าวว่า ขณะนี้คือตัวเลขการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศ ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เตรียมพร้อมไว้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว คาดว่าจังหวัดที่เหลือจะเปิดให้มีการท่องเที่ยวได้ทันกำหนดในวันที่ 15 ต.ค.นี้
“ส่วนการระบาดของโควิด-19 ใน จ.ภูเก็ต ตอนนี้พบผู้ติดเชื้อวันละกว่า 200 คน ซึ่งมาจากการที่ ผวจ.ภูเก็ตสั่งการให้ตรวจเชิงรุก โดยใช้ชุดตรวจแอนติเจนเทสต์คิต (เอทีเค) ในทุกชุมชน ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว และกลุ่มแรงงานประมง ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ทุกอย่างจะจบเรียบร้อย” รมว.การท่องเที่ยวและกีฬากล่าว
มีรายงานว่า นายพิพัฒน์ได้แจ้งต่อ ครม.ถึงแนวทางการเปิดประเทศว่าจะพิจารณาเป็นรายจังหวัด และอยากจะให้มีการเปิดในวันที่ 1 ต.ค. รวมถึงต้องการจะเปิด กทม. เนื่องจากในพื้นที่ กทม.มีการฉีดวัคซีนเกือบครบแล้ว โดยในเวลา 15.00 น.วันที่ 15 ก.ย.จะเดินทางไปพบ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อสอบถามถึงความเป็นไปได้ในการเปิด กทม.ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่อย่างไร โดยเฉพาะได้เห็นจาก จ.ภูเก็ตว่าเป็นไปด้วยดี มีนักท่องเที่ยวต่างชาติติดเชื้อน้อย
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า หลังมีสื่อมวลชนรายหนึ่งที่เข้ามาทำข่าวที่ทำเนียบฯ ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีผลตรวจ ATK เป็นบวก ล่าสุดเวลา 11.30 น. น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ด้านประสานกิจการภายในประเทศ และผู้อำนวยการสำนักโฆษกสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งให้สื่อเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลทันทีเพื่อทำความสะอาดพื้นที่
น.ส.นัทรียากล่าวว่า มีข่าวว่าเชื้อได้แพร่กระจายในทำเนียบรัฐบาล จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนกลับไปปฏิบัติหน้าที่ที่บ้านหรือที่ทำงาน เพื่อจะได้ทำความสะอาดห้องผู้สื่อข่าวทั้ง 3 ห้อง โดยจะเข้ามาทำความสะอาดช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าสถานที่แห่งนี้ปลอดเชื้อ โดยขอให้สื่อมวลชนกลับไปทำงานที่บ้านถึงวันที่ 24 ก.ย. แล้วค่อยกลับเข้ามาทำงานตามปกติ และในตอนที่สื่อมวลชนกลับเข้ามาทำงานจะขอให้นำผลตรวจ ATK มาแสดงด้วย
“เราจำเป็นต้องใช้มาตรการเข้มข้น เพราะผู้บริหารส่วนใหญ่ก็เป็นผู้มีอายุมาก และหลายท่านก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะให้สัมภาษณ์สื่อ ส่วนเรื่องที่นายกฯ จะลงพื้นที่ตรวจราชการต่างๆ โดยเฉพาะวันที่ 15 ก.ย.ที่ จ.ชัยนาท และวันที่ 17 ก.ย.ที่ จ.ชลบุรี สื่อไม่ต้องห่วง สำนักโฆษกฯ จะทำหน้าที่แทน ทั้งนี้ที่เราใช้มาตรการเช่นนี้ก็เพราะเป็นห่วงแต่ละท่าน เพราะเราไม่รู้ว่าแต่ละคนมีอาการที่แสดงออกหรือไม่แสดงออก อย่างสื่อที่ติดเชื้อก็ไม่แสดงอาการออกมา จึงอยากให้ทุกคนระมัดระวัง ขอให้กลับไปที่ตั้งก่อน ระหว่างนี้ทำเนียบรัฐบาลก็จะทำความสะอาดให้เรียบร้อย” ที่ปรึกษานายกฯ ระบุ
ที่ จ.กระบี่ มีรายงานว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกระบี่สั่งขยายเวลาปิดเกาะพีพีถึง 24 ก.ย. ยกเว้นนักท่องเที่ยวกลุ่มภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์สามารถเดินทางเข้าได้ โดยต้องอยู่ในภูเก็ตครบ 7 วัน ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และมีผลตรวจโควิดว่าไม่พบเชื้อ หลังจากมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดในพื้นที่เกาะพีพีหลายรายจากคลัสเตอร์คนงานก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียเกาะพีพี.