ข่าวภาคค่ำ – ผ่านมา 2 เดือนเศษแล้ว กับการหลุดตำแหน่ง สส.ของนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ พร้อมข้อเรียกร้องให้ ป.ป.ช.เร่งสอบ อีก 33 สส.ถือที่ดินรัฐ จนถึงวันนี้มีความคืบหน้าไปถึงไหน คอลัมน์หมายเลข 7 คุณสมจิตต์ นวเครือสุนทร ไปติดตามมาให้แล้ว
33 สส.ที่ถูกร้องถือครองที่ดินรัฐ ไม่แตกต่างจาก ปารีณา ไกรคุปต์ อดีตสส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ มาจาก 10 พรรคการเมือง ไล่เรียงตามลำดับ ดังนี้ ภูมิใจไทย และเพื่อไทย พรรคละ 8 คน พลังประชารัฐ 5 คน ก้าวไกล 4 คน ประชาธิปัตย์ 3 คน เศรษฐกิจไทย พลังชาติไทย ประชาชาติ เสรีรวมไทย และรวมพลังประชาชาติไทย พรรคละ 1 คน ซึ่งจนถึงขณะนี้การตรวจสอบของ ป.ป.ช. ก็งวดเข้ามาทุกทีแล้ว คาดว่าภายในปีนี้จะมีความเคลื่อนไหวบางอย่างออกมา
นอกจากมีการทวงถามความคืบหน้า เร่งรัดให้ ป.ป.ช.สรุปสำนวน 33 สส. จาก ปารีณา แล้ว ศรีสุวรรณ จรรยา ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นผู้ยื่นเรื่องตั้งต้นให้มีการสอบ 18 สส.ไปก่อนหน้านี้ โดยยังเห็นว่า การตรวจสอบของ ป.ป.ช.ล่าช้าเกินไป
ล่าสุดยังมีความเคลื่อนไหวจาก วัชระ เพชรทอง อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ไปยื่นเรื่องต่อกรมป่าไม้ ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายกับ สฤษฎ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย หนึ่งใน 33 สส. ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบของ ป.ป.ช. กรณีถือครองที่รัฐว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนป่าเขาขวาง-ป่าโคกยาง-ป่าช่องบางเหรียง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ หรือไม่ โดยมีการแจ้งทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ไว้ว่าถือครองที่ดิน ภทบ.5
คอลัมน์หมายเลข 7 ตรวจสอบไปยังผู้ถูกกล่าวหา ได้รับคำอธิบายว่า ยื่นบัญชีทรัพย์สินนี้ตั้งแต่เป็นรองนายก อบจ.กระบี่ เป็นที่ดินซึ่งแม่ยายไปซื้อให้ญาติที่อยู่ในข่ายได้รับสิทธิ สปก. ส่วนตนเป็นคนลงทุนปลูกสวนปาล์ม มีรายได้จากการขายปาล์ม จึงจำเป็นต้องชี้แจงถึงที่มาของรายได้
ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดิน แต่มีรายได้จากที่ดินดังกล่าว คือคำชี้แจงของ สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย เป็นหน้าที่ ป.ป.ช.ต้องชี้ขาด มีพฤติกรรมใดเข้าข่ายผิดจริยธรรมร้ายแรงตามที่มีการกล่าวหาหรือไม่