จนท.ลงพื้นที่ตรวจสอบรง.สกัดน้ำมันปาล์ม พบท่อส่งน้ำเสียชำรุดทำสัตว์น้ำตายเกลื่อน

ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

วันที่ 13 ธ.ค.64 นายวินัย ดินแดง นายอำเภอปลายพระยา เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรม จังหวัดกระบี่ ตัวแทนชาวบ้าน ลงพื้นที่ตรวจสอบ ภายในบ่อบำบัดน้ำเสียของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ลาภภักดีปาล์ม จำกัด หมู่ 2 ตำบลเขาเขน อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ หลังจากได้รับการร้องเรียนจาก ชาวบ้าน ในพื้นที่ว่า มีน้ำเสีย ไหลลงสู่ ลำห้วย คลองบางส้าน หมู่ 2 ,3  ตำบลเขาเขน อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ ส่งผลให้สัตว์น้ำ ปลา กุ้ง หอย ตายเป็นจำนวนมาก ตลอดแนว ลำ คลองบางส้าน ระยะทาง กว่า 10 กิโลเมตร ตั้งช่วงเช้าวันที่ 12 ธันวาคม ที่ผ่านมา

แต่ขณะที่ เจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าว ลงพื้นที่ตรวจสอบ มีพนักงานของโรงงาน แสดงความไม่พอใจ ห้ามไม่ให้นำเสนอข่าว กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เชิญผู้สื่อข่าว ออกจากพื้นที่ ผลักใช้มือปิดกล้องไม่ให้บันทึกภาพ แจ้งว่า เป็นสถานที่ส่วนบุคคล  ด้านนายวินัย ดินแดง นายอำเภอปลายพระยา ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย กล่าวว่า สถานที่ดังกล่าวเป็นที่ส่วนบุคคล หากไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของก็ไม่สามารถนำเสนอข่าวได้  ส่วนสาเหตุที่มีน้ำเสียไหลสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ทางโรงงานแจ้งว่า เกิดจากท่อส่งน้ำเสียจาก โรงงานมายังบ่อบำบัด ชำรุด ทำให้มีน้ำเสียจำนวนมาก ไหลลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สัตว์น้ำตายจำนวนมาก ตลอดแนวลำคลองระยะทาง กว่า 10 กิโลเมตร โดยทางโรงงานอยู่ระหว่างซ่อมแซม พร้อมเสนอแผน ปรับปรุงบ่อบำบัดน้ำเสียใหม่ 

ขณะเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรม จังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ตรวจสอบพบว่า ขณะนี้ทางโรงงานได้ทำการ ซ่อมท่อส่งน้ำเสียแล้วเสร็จแล้ว โดยจะเก็บตัวอย่างน้ำเสีย จากบ่อบำบัดน้ำเสีย 2 จุด และ เก็บตัวอย่างน้ำเสีย จากลำรางสาธารณะ ลำคลอง ที่มีน้ำเสียอยู่ ส่งไปตรวจสอบว่า เป็นน้ำเสียที่มาจาก ที่เดียวกันอยู่ไม่ เมื่อรู้ผลส่งให้ องค์การบริหารส่วนตำบลเขาเขน เป็นผู้ดำเนินการตาม ระเบียบข้อกฎหมาย 

สำหรับโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม แห่งนี้ เมื่อ ปี 2561 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุลักษณ์นี้มาแล้ว ทำให้มีน้ำเสียจำนวนมาก ไหลลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สัตว์น้ำตายจำนวนมาก ตลอดแนวลำคลองระยะทาง กว่า 10 กิโลเมตร ถูกสั่งปิดปรับปรุงเป็นระยะเวลา 30 วัน มาแล้ว แต่ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตว่า สภาพพื้นที่บ่อบำบัดน้ำเสีย ปัจจุบันกับเมื่อ 3 ปี ที่ผ่าน ไม่มีความแตกต่าง แต่อย่างใด  

ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่