ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ยังคงทรงตัวที่ 1.4 หมื่น “หมอโอภาส” เผยระดมฉีด 1 ล้านโดสในวันมหิดล เร่งฉีดเข็ม 1 ให้ครบ 50% ใน ต.ค. ขณะที่โฆษกรัฐบาลย้ำเดือนตุลาคมมีวัคซีน 24 ล้านโดส ยันเด็กๆ ถกแขนเสื้อรอ 4 ตุลารับไฟเซอร์
เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14,109 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 13,249 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 11,892 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 1,357 ราย จากเรือนจำและที่ต้องขัง 854 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 6 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 1,462,901 ราย ผู้หายป่วยเพิ่ม 13,280 ราย
ยอดรวมหายป่วยสะสม 1,317,527 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 130,128 ราย อาการหนัก 3,701 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 760 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 122 ราย เป็นชาย 70 ราย หญิง 52 ราย อายุ 60 ปีขึ้นไป 83 ราย มีโรคเรื้อรัง 33 ราย เสียชีวิตที่บ้าน 1 ราย ใน กทม.
ทำให้ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตสะสม 15,246 ราย ขณะที่การฉีดวัคซีนวันที่ 17 ก.ย. 547,324 โดส ฉีดวัคซีนสะสม ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 43,889,427 โดส โดยจำนวนนี้เป็นผู้ฉีดวัคซีนเข็มแรก 28,611,321 ราย คิดเป็นร้อยละ 39.7 ของจำนวนประชากร เข็มที่สอง 14,567,681 ราย คิดเป็นร้อยละ 20.3 ของจำนวนประชากร ส่วนสถานการณ์โลก มีผู้ป่วยสะสม 228,400,213 ราย เสียชีวิตสะสม 4,692,639 ราย
สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพฯ 2,843 ราย, สมุทรปราการ 1,018 ราย, ชลบุรี 848 ราย, ยะลา 477 ราย, นราธิวาส 476 ราย, ระยอง 414 ราย, นนทบุรี 399 ราย, ปราจีนบุรี 385 ราย, ราชบุรี 378 ราย, สงขลา 370 ราย
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ว่า ภาพรวมขณะนี้ดีขึ้น ประชาชนสามารถใช้ชีวิตวิถีใหม่อยู่กับสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ได้อย่างเคร่งครัดตามมาตรการป้องกันตนขั้นสูงสุดแบบครอบจักรวาล เช่น การสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ รักษาระยะห่าง งดไปในสถานที่แออัด เป็นต้น
ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-16 ก.ย.2564 ฉีดวัคซีนรวม 43,342,103 โดส โดยฉีดครบ 2 เข็ม จำนวน 14,285,995 โดส และฉีดเข็มที่ 1 ไปแล้ว จำนวน 28,436,015 โดส ซึ่งฉีดได้ประมาณ 9 แสนโดสต่อวัน พร้อมทั้งเร่งรัดให้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ให้ได้ ร้อยละ 50 อย่างช้าภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้ ตามเป้าของกระทรวงสาธารณสุข
“กระทรวงสาธารณสุขเตรียมแผนระดมพลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชน 1 ล้านโดสเป็นอย่างน้อยในทุกเข็ม ในวันมหิดล วันที่ 24 กันยายน 2564 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและปลัดกระทรวงสาธารณสุข จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนที่ยังไม่ได้ฉีด ขอให้รีบรับบริการฉีดวัคซีนที่สถานบริการใกล้บ้าน
ตุลาคม 24 ล้านโดส
นพ.โอภาสกล่าวว่า ขณะนี้วัคซีนที่ใช้ในประเทศไทยมี 4 ชนิด คือ ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม แอสตร้าเซนเนก้า และไฟเซอร์ ซึ่งผ่านการรับรองทั้งประสิทธิภาพและความปลอดภัยจากองค์การอนามัยโลกและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยวัคซีนหลักที่ใช้ฉีดเข็มที่ 1 คือ ซิโนแวคและเข็มที่ 2 แอสตร้าเซนเนก้า ห่างกัน 3-4 สัปดาห์ จากผลการศึกษาวิจัยในประเทศพบว่า วัคซีนทั้งสองชนิดนี้จะเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกายได้ดียิ่งขึ้น ใช้เวลาสั้นกว่าวัคซีนสูตรปกติ รายใดที่พบว่ามีปัญหาแพ้วัคซีนเข็มแรก เช่น มีผื่นขึ้นบวมแดงหรือหายใจติดขัด จะเปลี่ยนชนิดที่มีความปลอดภัยแทน
ทั้งนี้ จะฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ให้แก่ผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคมที่ผ่านมา เนื่องจากภูมิคุ้มกันเริ่มลดลงหลังฉีด 3-6 เดือน โดยประชาชนที่จะเข้ารับการฉีด จะได้รับการแจ้งข้อความ SMS ผ่านทางแอปพลิเคชันหมอพร้อม หรือลงทะเบียนที่สถานพยาบาลเดิม และเข้ารับบริการที่จุดฉีดวัคซีนกลางในแต่ละพื้นที่กำหนด เช่น ในกรุงเทพฯ ที่สถานีกลางบางซื่อ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า กลุ่มนักเรียน 12-17 ปี ที่จะเริ่มฉีดไฟเซอร์เข็มที่ 1 ในช่วงต้นเดือน ต.ค.นี้ จะคำนึงถึงประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และเป็นไปตามเจตจำนงของผู้ปกครองเป็นสำคัญ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการบริหารจัดการระบบการฉีดให้รัดกุมและมีความปลอดภัยสูงสุด
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลกำหนดแผนการกระจายวัคซีนให้กับคนทุกกลุ่ม ซึ่งตามแผนการจัดหาวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุขจนถึงเดือนธันวาคมนี้ จะมีวัคซีนเข้ามาจำนวน 152.9 ล้านโดส เพียงพอต่อแผนการฉีดวัคซีนให้ครบ 70% ของประชากร หรือประมาณ 50 ล้านคนอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ในช่วงตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.-31 ต.ค.64 มีการเตรียมจัดสรรวัคซีนจำนวน 24 ล้านโดส แยกตามกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้ 1.ประชาชนทั่วไป ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ทั่วประเทศ จำนวน 16.8 ล้านโดส 2.นักเรียนที่มีอายุระหว่าง 12-17 ปี ทั่วประเทศ จำนวน 4.8 ล้านโดส 3.แรงงานในระบบประกันสังคม 0.8 ล้านโดส 4.หน่วยงานอื่นๆ เช่น องค์กรภาครัฐ ราชทัณฑ์ จำนวน 1.1 ล้านโดส และ 5.ผู้ที่ได้รับวัคซีน Sinovac ครบ 2 เข็ม และต้องการเข็มกระตุ้น (เข็มที่ 3) จำนวน 0.5 ล้านโดส นอกจากนี้ ในเดือนตุลาคมจะมีวัคซีนซิโนฟาร์มและโมเดอร์นาเข้ามาอีก ดังนั้น ขอให้มั่นใจว่าวัคซีนมีจำนวนเพียงพออย่างแน่นอน
ในส่วนของประชาชนที่ฉีดวัคซีนเชื้อตายครบ 2 เข็มนั้น จะมีการเร่งฉีดกระตุ้นภูมิเข็ม 3 เร็วขึ้น โดยในวันที่ 24 กันยายนจะเป็นวันแรก ส่วนวัคซีนไฟเซอร์ที่เตรียมฉีดให้นักเรียนนักศึกษา อายุ 12-17 ปี จะเริ่มฉีดเข็มแรกในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ และฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในช่วงปลายเดือนตุลาคม (เนื่องจากวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม ระยะห่างจะอยู่ที่ 3-4 สัปดาห์) ส่วนการเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 จะพิจารณาแยกตามข้อกำหนด มาตรการ และสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่ต่อไป
สมุทรปราการกดไม่ลง
นายธนกรเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับให้เร่งฉีดวัคซีนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และขอบคุณคนไทยทุกคนที่ให้ความร่วมมือในการป้องกันโควิด-19 พร้อมทั้งให้กำลังใจบุคลากรทางแพทย์ที่ช่วยกันอย่างเต็มที่ด้วย
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดกระบี่ ยังมีการแพร่ระบาดต่อเนื่องจากหลายคลัสเตอร์ เช่น คลัสเตอร์ตลาดนัดต้นทวย คลัสเตอร์แคมป์คนงานก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียเกาะพีพี คลัสเตอร์พิธีบำเพ็ญกุศลศพอดีตเจ้าอาวาสวัดแก้ว จนทำให้มียอดผู้ติดเชื้อพุ่งกว่า 100 คน สองวันติดต่อกัน โดยพบว่าอำเภอเมืองกระบี่ มียอดผู้ติดเชื้อมากสุด 60 ราย กระจายไปตามหมู่บ้าน ตำบล รวมถึงในเขตเทศบลเมืองกระบี่
ล่าสุด ข้อมูลจากศูนย์สื่อสารความเสี่ยงสำนักงานสาธารณสุข จ.กระบี่ เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 17 ก.ย. พบผู้ป่วยรายใหม่ เพิ่ม 119 ราย (พบในจังหวัด 117 ราย จากนอกจังหวัด 2 ราย) ยอดสะสมรวม 2,881 ราย รักษาหาย 1,853 ราย กำลังรักษา 1,024 ราย และเสียชีวิตรวม 4 ราย
ส่วนคลัสเตอร์แคมป์คนงานก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียเกาะพีพี ม.7 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9 ราย เป็นคนไทย 7 ราย เมียนมา 2 ราย ลดลง 8 ราย จากวานนี้พบผู้ป่วย 17 ราย
ในส่วนอำเภอที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รองลงมาจากอำเภอเมืองกระบี่ ได้แก่ อ.คลองท่อม มีผู้ติดเชื้อ 24 ราย, อ.อ่าวลึก อ.ลำทับ อำเภอละ 8 ราย, อ.เขาพนม 5 ราย, อ.เหนือคลอง 3 ราย ส่วนอำเภอที่ไม่พบผู้ป่วยเพิ่มในวันนี้ ได้แก่ อ.เกาะลันตา สำหรับผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน รวมจำนวน 350 ราย รพ.สนามโกเมน ต.อ่าวนาง จำนวน 115 ราย, รพ.สนาม ค่ายทหาร ร.15 พัน 1 อ.คลองท่อม จำนวน 193 ราย, รพ.สนาม พลบดี อ.เมืองฯ จำนวน 198 ราย และ รพ.อื่นๆ อีก 168 ราย
นพ.พรณรงค์ ศรีม่วง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรปราการ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 1,018 ราย เป็นผู้ป่วยในพื้นที่จำนวน 798 ราย, อำเภอเมืองสมุทรปราการ จำนวน 337 ราย, อำเภอพระประแดง จำนวน 60 ราย, อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จำนวน 49 ราย, อำเภอบางพลี จำนวน 271 ราย, อำเภอบางบ่อจำนวน 26 ราย, อำเภอบางเสาธง จำนวน 55 ราย, โรงพยาบาลเอกชนรับมารักษาต่อในสมุทรปราการ จำนวน 220 ราย
เสียชีวิต 5 ราย เป็นเพศชายจำนวน 1 ราย เป็นเพศหญิงจำนวน 4 ราย อายุระหว่าง 45-89 ปี มีประวัติโรคเรื้อรังจำนวน 4 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรังจำนวน 1 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 1,090 ราย ผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน จนถึงปัจจุบันจำนวน 99,741 ราย กำลังรักษาในโรงพยาบาลของรัฐในโรงพยาบาลเอกชน และรักษาใน Hospitel มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรีสมุทรปราการ รวมจำนวน 20,770 ราย.