เผยแพร่:
ปรับปรุง:
กระบี่ – ชาวประมงหน้าบาน แมงกะพรุนลอดช่องมาเร็วกว่าทุกปี แห่จับขายสร้างรายได้ดี ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าต้องแย่งกันรับซื้อให้ราคาสูงตัวละ 5 บาท
วันนี้ (10 ก.พ.) ที่บริเวณท่าเทียบเรือประมง บ้านคลองทราย ดินแดงน้อย ม.6 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ ได้มีชาวประมงในพื้นที่ตำบลหนองทะเล เขาทอง คลองประสงค์ อ.เมืองกระบี่ และอำเภอใกล้เคียงกว่า 300 ลำ บรรทุกแมงกะพรุนลอดช่องที่ตักได้เต็มลำเรือมาขายบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่มาตั้งเต็นท์รับซื้อตลอดแนวชายฝั่ง บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักโดยในปีนี้ พบว่าแมงกะพุรนมาเร็วกว่าทุกปี
ขณะเดียวกัน ชาวประมงที่หันมาตักแมงกะพรุนก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นกว่าเท่าตัว เช่นกัน เนื่องจากช่วงการระบาดของโควิด-19 เรือหางยาวนำเที่ยวขาดรายได้ จึงดัดแปลงเรือออกมาจับแมงกะพรุนแทน เป็นรายได้ทดแทนจากการการท่องเที่ยวที่หายไป
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ราคาแมงกะพรุนยังสูงอยู่ พ่อค้าแม่ค้าจะรับซื้อในราคาตัวละ 5 บาท โดยมีพ่อค้าแม่ค้าเปิดรับซื้อหลายราย เรือ 1 ลำ สามรถจับแมงกะพรุนได้ 300- 600 ตัว คิดเป็นเงิน 1,500-3,000 บาท ซึ่งแบ่งรายได้กันแล้วเฉลี่ยคนละ 500-1,000 บาท
นายสายัณห์ หมาดชาย อายุ 45 ปี ชาวประมงกล่าวว่า ตนเริ่มจับแมงกะพรุนมาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา เนื่องจากปีนี้แมงกะพรุนมาเร็ว เดิมทีตนออกเรือประมงวางอวน หาปลาเล็กๆ น้อยๆ รายได้ไม่แน่นอน บางวันก็ไม่ได้เลย แต่พอมีแมงกะพรุนโผล่ขึ้นมาในทะเล พื้นที่บริเวณหมู่เกาะห้อง ในพื้นที่ตำบลเขาทอง และบริเวณใกล้เคียงจึงได้ดัดแปลงเรือหาปลามาเป็นเรือตักแมงกะพรุน แทน ทำให้มีรายได้ดีขึ้น และค่อนข้างแน่นอน
ซึ่งในปีนี้แมงกะพรุนมาเร็วกว่าปกติ และตัวขนาดใหญ่ ทำ.ห้มีเรือประมง รวมทั้งเรือหางยาวท่องเที่ยวก็หันมาจับแมงกะพรุนขายกันเป็นจำนวนมาก จากเดิมมีเรือจับแมงกะพรุน 100-200 ลำ ปีนี้มีเกือบ 1,000 ลำ อาจจะส่งผลให้แมงกะพรุนลดลงเร็วกว่าเดิมเพราะคนออกล่าแมงกะพรุนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปีนี้พ่อค้าให้ราคาดีตัวละ 5 บาท ซึ่งเรือแต่ละลำจะจับแมงกะพรุนได้ไม่ต่ำกว่า 200-300 ตัวต่อวัน ซึ่ง 1 ลำจะใช้กำลังคน 2-3 คน คือนายท้ายเรือ และคนทำหน้าที่ตักแมงกะพรุนที่หัวเรือ 1-2 คน เมื่อแบ่งรายได้กันแล้วตกคนละ 500-300 บาท แต่จะจับแมงกะพรุนได้ประมาณ 3 เดือนเท่านั้นหลังจากนี้มันย้ายไปที่อื่น ส่วนคนที่จับกะพรุนเป็นอาชีพหลักก็จะมีรายได้หลักแสนบาทต่อปี เพราะจะตระเวนไปทุกจังหวัดในฝั่งอันดามัน ตั้งแต่ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง ไปจนถึง จ.สตูล
ด้านนายนัฐวุฒิ สันติธราภรณ์ ผู้จัดการแพรับซื้อแมงกะพรุน กล่าวว่า ปีนี้แมงกะพรุนจะมาเร็วกว่าทุกปี ซึ่งทุกปีที่ผ่านมาจะมีมากในช่วงเดือนเมษา-มิถุนายน คาดว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ แต่ถือว่าเป็นโชคดีของชาวประมงที่จะมีรายได้เร็วขึ้น ขณะที่ทางผู้ประกอบการก็มาตั้งเต็นท์รับซื้อเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียว โดยในปีนี้เฉพาะที่หาดคลองทราย มีอยู่เกือบ 20 เต็นท์ โดยจะว่าจ้างชาวบ้านในพื้นที่ให้ช่วยล้างคัดแยกแมงกะพรุน ซึ่งชาวบ้านจะมีรายได้อีกวันละ 400-500 บาท รวมแล้วเงินสะพัดไม่ต่ำว่า 5 แสนบาทต่อวัน
สำหรับแมงกะพรุนที่รับซื้อจากชาวประมงจะเป็นแมงกะพรุนลอดช่อง นำมาหมักเกลือ พอแห้งแล้วก็ส่งต่อไปบริษัทที่จังหวัดชลบุรี จากนั้นจะทำการแปรรูปอีกครั้ง บรรจุใส่ลังไม้ส่งขายในประเทศและต่างประเทศ เช่น เกาหลี จีน เป็นต้น ซึ่งนิยมรับประทานกัน เพราะเชื่อว่ามีส่วนช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงกำลังวังชา ส่วนในประเทศไทยจะนิยมทานเป็นกับ เช่น ยำแมงกะพรุน เป็นต้น