ภูเก็ต – เมื่อวันที่ 24 ก.พ. รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล ลงพื้นที่หาดกะตะ เพื่อกำกับการปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันของสำนักงาน ทช.ที่10 (กระบี่) สำนักงาน ทช.ที่6 (พังงา) และศูนย์วิจัย ทช. ทะเลอันดามันตอนบน ที่ปฏิบัติงานศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟือง (รังที่ 1) หาดกะตะ ในการจัดเตรียมความพร้อมรอการฟักของไข่เต่ามะเฟืองหลังจากการยุบตัวของปากหลุม
วันศุกร์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564, เวลา 10:40 น.
ภาพ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
ภาพ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
ภาพ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
ภาพ เอกภพ ทองทับ
เมื่อเวลา 21.00 น. ที่บริเวณคอกหลุมเต่ามะเฟือง ชายหาดกะตะ ประชาชนชาวภูเก็ตและชาวต่างชาตินับร้อยคน เดินทามารวมตัวกันเพื่อรอชมลูกเต่ามะเฟืองฟักตัวจากไข่ในคอกหลุมทราย ที่ทางกรมทช. ได้ล้อมคอกดูแลไว้ หลังจากที่แม่เต่ามะเฟืองขนาด 300 กิโลกรัมขึ้นมาวางไข่เมื่อคืนวันปีใหม่
ดร.พรศรี สุทธนารักษ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล พร้อมด้วยนักวิชาการนักวิชาการได้ทำการประเมิน และตรวจสอบหลุมไข่ของเต่ามะเฟืองจำนวน 50 ถึง 60 ฟอง มีการตรวจวัดอุณหภูมิของหลุมทราย จนได้ข้อสรุปว่าลูกเต่าจะฟักออกมาอย่างช้าที่สุดลูกเต่าน่าจะเป็นวันที่ 26 ก.พ. และขอความร่วมมือให้ประชาชนหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อการฟักของไข่เต่ามะเฟืองโดยวิธีธรรมชาติ เพื่อปล่อยลูกเต่ามะเฟืองลงสู่ทะเลอย่างปลอดภัยต่อไป
“นับว่าเป็นนิมิตหมายอันดีที่เต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่ที่หาดกะตะ ถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี สำหรับพื้นที่หาดกะตะ-หาดกะรน ไม่พบการขึ้นมาวางไข่ของเต่าทะเลมานาน เนื่องจากเป็นพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยว การขึ้นมาวางไข่ของเต่ามะเฟืองครั้งนี้ เมื่อวันปีใหม่ ทำให้ชาวภูเก็ต และนักท่องเที่ยว มารอต้อนรับลูกเต่ามะเฟืองกันมากพอสมควรซึ่งน่าจะเป็นวันพรุ่งนี้ที่ลูกเต่าจะลืมตาดูโลกและถือว่าเป็นเรื่องที่ดีบ่งบอกถึงการกลับคืนมาของธรรมชาติท้องทะเลของจังหวัดภูเก็ต” ดร.พรศรี กล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังจากเต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่ที่หาดกะตะแล้วก็ยังมีขึ้นวางไข่ที่หาดไม้ขาว เมื่อ วันที่ 12 ม.ค. และเป็นรังที่ 15 ของฤดูกาลวางไข่ปีนี้ ทั้งนี้เฟซบุ๊กกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ระบุว่า ลูกเต่ามะเฟืองยังไม่ฟักตัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้เฝ้าระวังต่อไป