อาชญากรรม
บุกรวบสองผัวเมียค้ายาบ้า ขยายผลจับเอเยนต์วัย 66 ปีได้อีกราย
วันพฤหัสบดี ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2564, 15.48 น.
คลิกที่นี่
วันที่ 11 มีค. เจ้าหน้าฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกระบี่ นำโดยนายวิรัชเดช บุญเรืองขาว ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นตง และเป็นเจ้าพนักงาน ปปส. พร้อมเจ้าหน้าที่ อส. อ.เมืองกระบี่ เข้าคุมตัว น.ส.สายจิตร์ งามสวน อายุ 46 ปี ตำบลเหนือคลอง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ และ นายสมเกียรติ บุญญะ อายุ 48 ปี ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นสามี พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 35 เม็ด ซึ่งขณะคุมตัวจับกุมนั้นนายสมเกียรติ ได้ร้องไห้อย่างหนัก โดยอ้างว่าไม่ทราบว่าภรรยาค้ายาบ้า แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ โดยจับกุมได้ที่ริมถนนทางเข้าโรงไม้ยางพารา หมู่ที่ 2 ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ให้นางสาวสายจิตร์ โทรติดต่อไปยังผู้ค้าอีกรายเพื่อนัดยาบ้ามาส่ง โดย นส.สายจิตร์ ขอให้มาส่งยังบริเวณถนนซอยในหมู่ 1 ต.เหนือคลอง จากนั้นเจ้าหน้าที่ไปดักซุ่มรอจนผู้ค้าเดินทางมาส่งยาบ้าให้ เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไว้ทราบชื่อต่อมาคือ นายเฉม ไกรบุตร อายุ 66 ปี บ้านเลขที่ 112 หมู่ที่ 1 ตำบลเหนือคลอง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 20 เม็ด
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้จับกุมชายคนหนึ่งอายุ 25 ปี พร้อมยาบ้า 9 เม็ด ขณะที่ตั้งด่านความมั่นคงที่ ต.กระบี่น้อย และผู้ต้องหาให้การว่าซื้อยาบ้ามาจาก นส.สายจิตร์ ในราคาเม็ดละ 70 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้ตามไปจับกุมตรวจค้นในตัวพบยาบ้า 35 เม็ด แล้วขยายผลไปยังนายเฉม ได้ดังกล่าว ทั้งนี้ยาบ้าที่นายเฉม ขายให้ นส.สมจิตร์ ราคาเม็ดละ 40 บาท และ นส.สมจิตร์ จะขายให้วัยรุ่นผู้เสพในราคาเม็ดละ 70-100 บาท โดยเฉพาะกับคนงานโรงไม้ยางแห่งหนึ่งในพื้นที่ ซึ่งเป็นคนงานชาวเมียนม่า จะขายในราคาเม็ดละ 100 บาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกจับว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า ) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
นายวิรัชเดช เผยว่า การจับกุมครั้งนี้สาเหตุที่ได้ของกลางไม่มาก เนื่องจากได้มีการขายให้กับทางผู้เสพไปแล้วจนเกือบหมด แต่ในแนวทางการสืบสวนนั้นพบว่า ทั้ง 2 รายที่จับได้ มีการนำยาบ้ามาไว้เพื่อจำหน่ายครั้งละมากกว่า 1 พันเม็ด ซึ่งหลังจากนี้ จะขยายผลต่อไป
คลิกที่นี่