เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2565 ที่ศูนย์สต็อกห้องเย็นเก็บเนื้อสุกรชำแหละ บริษัท เบทาโกร จำกัด ถนนกาญจนวิถี ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พาณิชย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปศุสัตว์จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกษตรและสหกรณ์จังหวัด และรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบสต็อกสินค้าเนื้อสุกรชำแหละ เนื้อไก่สด ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฉบับที่ 2 พ.ศ.2565 เรื่อง การแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และ จัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร ณ วันที่ 5 ม.ค.65 และ ตามพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ.2497 โดยมี นายณภัทร ชูสุดรักษ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ
สำหรับศูนย์สต็อกห้องเย็นเก็บเนื้อสุกรชำแหละของบริษัท เบทาโกร ที่คณะเข้าตรวจสอบในครั้งนี้เป็นศูนย์หลักของ 6 จังหวัดภาคใต้ตอนบน คือ จ.ชุมพร , ระนอง ,สุราษฎร์ธานี ,กระบี่ ,พังงา ,ภูเก็ต และ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราชการ รวมทั้งหมด 9 จุดบริการ 21 สาขา มีการสต็อกเนื้อสุกรชำแหละทั้งหมด 200 ตัน หรือ 200,000 กิโลกรัม
จากการตรวจสอบวันนี้พบว่าที่ศูนย์กระจายสินค้าสุราษฎร์ธานี ณ วันที่ 21 ม.ค.65 มีเนื้อสุกรชำแหละ และชิ้นส่วนต่างๆ รวมทั้งสิ้น 17,288 กิโลกรัม หรือ 17 ตันเศษ ซึ่งทุกวันจันทร์ทางบริษัทจะต้องแจ้งจำนวนสินค้าที่มีในสต็อกทั้งหมดไปยังสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ส่วนการขนย้ายทุกครั้งต้องแจ้งให้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดทราบก่อน
นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การเข้าตรวจครั้งนี้เพื่อติดตามสถานการณ์โรคระบาดสุกร การเคลื่อนย้ายสัตว์ และ การสต็อกสินค้า ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ไม่พบสิ่งผิดปกติ ไม่มีการกักตุนเนื้อสุกร ซึ่งการตรวจสอบของทางจังหวัดนั้นจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของรัฐบาล และ กระทรวงมหาดไทยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จึงต้องย้ำขอความร่วมมือผู้ประกอบการอย่าได้ฉวยโอกาสขึ้นราคาเพราะจะเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน
“ หากพบผู้ประกอบการรายใดมีการกักตุนหวังผลให้ราคาสูงขึ้น ถือว่าผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ.2597 จะต้องถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาด พร้อมนี้ ขอให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มาตรา 30 หากฝ่าฝืนอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งจำปรับ ตามมาตรา 41 “
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่