จากเหตุการณ์สังหารหมู่ คนร้ายยิง นายวรยุทธ สังหลัง หรือผู้ใหญ่บัติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ตำบลบ้านกลาง อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ พร้อมครอบครัวรวม 8 ศพ ในจำนวนนี้มีเด็กอายุ 4 ขวบ, 8 ขวบ และ 12 ปี และยังมีผู้บาดเจ็บอีก 3 คน ต่อมาตำรวจตามจับตัว นายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือบังฟัต อายุ 41 ปี ผู้ก่อเหตุ พร้อมพวกรวม 8 คน เอาไว้ได้
สำหรับเหตุจูงใจมาจากความแค้นเรื่องที่ดิน เนื่องจากผู้ใหญ่บัตินำที่ดินไปจำนองกับบังฟัต เเต่บังฟัตได้นำที่ดินไปจำนองต่อกับธนาคาร โดยที่เจ้าของเดิมไม่ทราบเรื่อง และเมื่อนำเงินไปไถ่ถอน บังฟัตกลับไม่คืนโฉนดที่ดิน จึงเกิดการขู่ฆ่ากันไปมาหลายครั้ง นำมาสู่เหตุสะเทือนขวัญดังกล่าว
คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 8 อ่านคำพิพากษาคดี โดยยืนตามศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2562 ตัดสินประหารชีวิตจำเลยที่ 1- 6 และเพิ่มโทษจำเลยที่ 7 จากเดิมจำคุก 1 ปี 9 เดือน เป็นประหารชีวิต ส่วนจำเลยที่ 8 ศาลตัดสินลงโทษจำคุก 12 เดือน ไม่ได้เพิ่มโทษ
ล่าสุดวันนี้ (18 มี.ค.) ศาลฎีกาใช้วิธีอ่านคำพิพากษาผ่าน Video Conference จากศาลจังหวัดกระบี่ไปยังเรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีครอบครัวของนายวรยุทธ หรือผู้ใหญ่บัติ เดินทางมาฟังคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดกระบี่ด้วย
โดยศาลฎีกาอ่านคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ลงโทษประหารชีวิตบังฟัตพร้อมกับจำเลยที่ 2 ถึง 7 เนื่องจากศาลเห็นว่า การกระทำของจำเลยทั้ง 7 เป็นการกระทำที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง และเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่น และให้จำเลยทั้ง 7 ชดใช้ค่าเสียหายให้กับญาติผู้เสียชีวิตทุกคน ตั้งแต่วงเงิน 400,000 บาทไปจนถึง 2,000,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 8 ยืนโทษจำคุก 12 เดือนเช่นเดิม เนื่องจากศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการลงมือฆ่า
หลังญาติๆ ที่มารอฟังคำพิพากษา ทราบข่าวผลการตัดสินของศาลฎีกาที่ยืนตามศาลชั้นต้น ทุกคนรู้สึกดีใจ พร้อมเปิดเผยว่า เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เพราะเป็นคดีที่เหี้ยมโหด หลังจากต้องรอมานานถึง 4 ปี
ด้านทนายความของจำเลย ระบุว่า หลังจากนี้จะทำเรื่องทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษประหารชีวิตตามขั้นตอนต่อไป