สหกรณ์ผู้ประกอบการกล้วยไม้ไทยเดินสายจัดงาน “โครงการกล้วยไม้สัญจร” 12 จังหวัด เหนือ-อีสาน-กลาง-ใต้-ตะวันออก กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมรายได้เปิดช่องการขายให้เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไม้ไทย หลังสถานการณ์ราคาตกต่ำ ผลกระทบจากโรคโควิด-19 ประสบภาวะขาดทุนหนัก ยอดขายตลาดในประเทศ ส่งออกลดฮวบ ขาดรายได้
นายพยงค์ คงอุดมทรัพย์ ประธานสหกรณ์ผู้ประกอบการกล้วยไม้ไทย จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์ราคาผลผลิตกล้วยไม้ตกต่ำมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน
รวมถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบทำให้เกษตรกรต้องประสบภาวะขาดทุนและขาดรายได้เป็นอย่างมาก เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไม้ในการระบายสินค้า
ส่งเสริมรายได้และเปิดช่องทางการขายรวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงได้มีการจัด “โครงการกล้วยไม้สัญจร” ซึ่งเป็นโครงการเฉพาะกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงมหาดไทย
“โครงการนี้ถือว่าเป็นโครงการเฉพาะกิจของทางภาครัฐที่จัดขึ้นมาโดยมีสหกรณ์ผู้ประกอบการกล้วยไม้เป็นแม่งานหลัก ซึ่งงบประมาณต่าง ๆ จะเป็นงบที่ทางผู้ประกอบการสมทบทุนในการจัดงาน
และให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเปิดพื้นที่ให้จัดงาน รวมถึงการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ และตอนนี้ได้ขอความร่วมมือจากกระทรวงพาณิชย์ โดยให้พาณิชย์จังหวัดต่าง ๆ จัดหาคู่ค้าหรือคู่เจรจาให้ โดยสหกรณ์จะมีการออกบูทเจรจาธุรกิจ”
สำหรับการจัดงาน “กล้วยไม้สัญจร” มีแผนการจัดทั้งหมด 12 จังหวัด แบ่งออกเป็นภาคใต้ 5 จังหวัด ได้แก่ ตรัง, กระบี่, ภูเก็ต, พัทลุง, สุราษฎร์ธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี, มุกดาหาร ภาคเหนือ 2 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก, ลำปาง ภาคกลาง 1 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี โดยเลือกจากจังหวัดที่มีกำลังซื้อหลัก ๆ
“เราพยายามจะจัดงานให้ครบทุกจังหวัดหรือกระจายทั่วทุกภูมิภาคแต่เนื่องจากมีกำหนดว่าจะจัดเดือนละ 1 งาน จึงมีเวลาจัด 12 จังหวัด หลังจากได้มีการจัดงานที่จังหวัดลำปางทั้งหมด 7 วัน ผลปรากฏว่าได้ผลตอบรับที่ดีมาก
มีประชาชนเข้ามาร่วมงานกว่า 15,000 คนยอดขายกว่า 3,000,000 บาท เราจึงมองว่าจังหวัดถัดไปจะใช้ระยะเวลาจัดงานทั้งหมด 10 วัน”
ทั้งนี้ รูปแบบในการจัดงานจะมีจัดทำซุ้มไฮไลต์ที่เป็นเอกลักษณ์ในแต่ละพื้นที่ เช่น ราชบุรี คือวิมานค้างคาว ตรัง คือวิมานนกนางแอ่น และลำปาง คือวิมานกล้วยไม้ หรือถ้ำกล้วยไม้ ฯลฯ โดยจะมีการจัดงานทั้งหมด 10 วัน
ด้านนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายพยงค์ คงอุดมทรัพย์ ประธานสหกรณ์ผู้ประกอบการกล้วยไม้ไทย จำกัด และคณะได้เข้าหารือเกี่ยวกับการจัดงานกล้วยไม้สัญจร
โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม จากสถานการณ์ราคาผลผลิตกล้วยไม้ตกต่ำมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน รวมถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ต้นทุนการส่งออกสินค้าเพิ่มสูงมากขึ้น เช่น ค่าระวางเครื่องบินที่สูงขึ้นกว่าร้อยละ 300
จากราคาค่าระวางเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผู้ส่งออกต้องแบกรับต้นทุนที่สูงมากกับราคาขายปลายทางที่ไม่ได้ขึ้นตามสัดส่วนที่เป็นจริง ประกอบกับมีค่าใช้จ่ายที่ต้องดูแลรักษาดอกและต้นกล้วยไม้ เช่น ค่าแรงงาน ปุ๋ย สารเคมีและรายจ่ายอื่น ๆ
ส่งผลกระทบทำให้เกษตรกรต้องประสบภาวะขาดทุนและขาดรายได้เป็นอย่างมาก
จากปัญหาดังกล่าวคือสาเหตุหลักสำคัญที่มีผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้โดยตรง และไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะกลับมาเป็นปกติเมื่อไหร่ ทั้งนี้ กล้วยไม้เป็นพืชเกษตรชนิดเดียวที่สร้างความสวยงามให้คนทั้งโลกและลงทุนสูงที่สุด
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเกษตรกรผู้ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ในการระบายผลผลิตและส่งเสริมรายได้รวมถึงขยายโอกาสให้กับเกษตรกรมีช่องทางการตลาดเพิ่มขึ้น และประชาสัมพันธ์กล้วยไม้ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ดึงดูดและตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยว
ทางสหกรณ์ผู้ประกอบการกล้วยไม้ไทย จำกัด มองเห็นว่าการจัดงานกล้วยไม้สัญจรทั่วประเทศ โดยได้วางแผนการจัดงานและกำหนดการจัดงานกล้วยไม้สัญจร 5 จังหวัดในภาคใต้ คือระหว่างวันที่ 30 เมษายน-9 พฤษภาคม 2564 ณ จังหวัดตรัง
ระหว่างวันที่ 21-30 พฤษภาคม 2564 ณ จังหวัดพัทลุง วันที่ 11-20 มิถุนายน 2564 ณ จังหวัดกระบี่ วันที่ 25 มิถุนายน-4 กรกฎาคม 2564 ณ จังหวัดภูเก็ต และวันที่ 16-25 กรกฎาคม 2564 ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี