อายุ 55 อัพ รับ 5 พัน ททท.ดัน ‘เที่ยวไทยวัยเก๋า’ จ่อฉีดวัคซีนผู้ประกอบการท่องเที่ยว 5 หมื่นราย
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยเมื่อวันที่ 22 กพ.ที่ผ่านมาว่า มาตรการช่วยเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) ของภาคการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ หลังจากได้หารือร่วมกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คาดว่าน่าจะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ คลังจะเป็นหลักในการนำเข้า ครม.เอง เนื่องจากเป็นเจ้าของงบประมาณที่จะใช้ รวมถึงการจัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาและพัฒนาภาคท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ในส่วนของรายละเอียด หลังจากการประชุมแล้วเสร็จ น่าจะมีความชัดเจนออกมามากขึ้น
นายพิพัฒน์กล่าวว่า วันที่ 22 กุมภาพันธ์ มีการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 (ศบค.) กระทรวงการท่องเที่ยวฯได้นำเสนอ การขอวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เพื่อใช้ฉีดให้กับภาคการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ เป็นจำนวน 5 หมื่นโดส จะฉีดให้ผู้ประกอบการและแรงงานท่องเที่ยวจำนวน 5 หมื่นคน ก่อนจะฉีดซ้ำรอบ 2 หลังจากมีวัคซีนเข้ามาเพิ่มเติม จังหวัดที่จะนำร่องฉีดก่อน ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต กระบี่ และสุราษฎร์ธานี ในพื้นที่สมุย พังงา เกาะเตาะ เป็นพื้นที่ที่รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลักในสัดส่วนที่สูง
“ในการประชุม ศบค.จะมีการขออนุมัติการจัดทำแอเรียควอรันทีน หรือโรงแรมที่เข้าเป็นสถานที่กักตัวของรัฐ ในรูปแบบสามารถออกนอกห้องพักได้ แต่ไม่สามารถออกนอกโรงแรมได้ เป็นจำนวน 14 วัน เป็นแนวคิดเดียวกับกอล์ฟควอรันทีน จึงคาดว่าจะออกมาไม่ยากนัก” นายพิพัฒน์กล่าว
ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ททท.ได้จัดทำรายละเอียด โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่จะขยายการใช้สิทธิเพิ่มเติม จากเดิมที่จะครบกำหนดการใช้สิทธิถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 รวมถึง โครงการเที่ยวไทยวัยเก๋า จะสนับสนุนให้ผู้มีอายุ 55 ปี ขึ้นไปออกเดินทางท่องเที่ยวผ่านบริษัททัวร์นำเที่ยว รัฐบาลจะช่วยค่าใช้จ่ายส่วนต่าง 5,000 บาทต่อ 1 คน จำนวน 1 ล้านคน ในวงเงิน 5,000 ล้านบาท นำมาจากงบประมาณของโครงการเราเที่ยวด้วยกันที่ยังเหลือยอยู่ คาดว่าจะนำเข้าเสนอสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ได้ในช่วงสัปดาห์นี้
“การประชุม ครม. ในส่วนของท่องเที่ยวยังไม่มีการนำโครงการหรือมาตรการเสนอเข้าที่ประชุม เพราะยังต้องผ่านความเห็นชอบของสภาพัฒน์ก่อน
“ในส่วนของข้อเสนอเอกชน ต้องการให้ช่วยเหลือเรื่องการลดต้นทุน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายคงที่ อาทิ ค่าน้ำ-ค่าไฟ ขณะนี้ได้ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) คาดว่าน่าจะมีการออกมาตรการมาช่วยเหลือค่าใช้จ่ายคงที่ในเร็วๆ นี้ รวมถึงการช่วยจ่ายค่าจ้างแรงงานคนละครึ่ง (โค-เพย์) ไม่เกิน 7,500 บาทต่อเดือน ตอนนี้ข้อเสนอทั้งหมดได้ส่งไปยังกระทรวงการคลังแล้ว คาดว่าจะมีความชัดเจนออกมามากขึ้น” นายยุทธศักดิ์กล่าว
