วันนี้ (25 พ.ค.65) นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวสถานการณ์โควิดขณะนี่สถานการณ์ทั่วโลกดีขึ้น และเริ่มผ่อนคลายมาตรการ สำหรับประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อลดลงประมาณ 4,000-5,000 คนต่อวัน วันนี้มีรายงาน 5,013 คน แต่หากรวมกับผู้ติดเชื้อเข้าข่าย (ATK) การติดเชื้อในประเทศจะใกล้เคียงกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ สำหรับผู้ป่วยปอดอักเสบและใส่ท่องช่วยหายใจมีแนวโน้มทรงตัว ผู้ป่วยระหว่างการรักษาที่เคยสูงถึง 2 แสนคน ตอนนี้เหลือไม่ถึง 5 หมื่นคน หากการติดเชื้อลดลงจะลดการเตือนภัยโควิด จากระดับ 3 เป็นระดับ 2 เพื่อผ่อนคลายให้ ประชาชนใช้ชีวิตให้ปกติมากขึ้น อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้สูงอายุและเด็กวัยเรียนยังจำเป็นต้องฉีดวัคซีน เนื่องจากผู้เสียชีวิตรายใหม่ทั้ง 33 คน เป็นกลุ่มเสี่ยง 608 ทั้งหมด
ส่วนเรื่องการพิจารณาถอดหน้าแมสก์ในช่วงกลางเดือน มิ.ย.นี้ น.พ.จักรรัฐ กล่าวว่าจะเริ่มในบางพื้นที่ และบางสถานที่ก่อน เช่น ที่โล่งแจ้ง เบื้องต้นที่จะได้การผ่อนคลายก่อนคือจังหวัดสีเขียวและจังหวัดสีฟ้า โดยกระทรวงสาธารณสุขสามารถประกาศได้ และแจ้งให้ ศบค.รับทราบ หรือส่งเรื่องให้ทาง ศบค.เป็นผู้พิจารณาก็ได้
สำหรับพื้นที่โซนสี ที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. นี้ ศบค.ชุดใหญ่กำหนด พื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) 14 จังหวัด ประกอบด้วย ชัยนาท พิจิตร อ่างทอง น่าน มหาสารคาม ยโสธร นครพนม ลำปาง อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ ตราด สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ และอุดรธานี พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) 17 จังหวัดประกอบด้วย กรุงเทพฯ กระบี่ กาญจนบุรี จันทบุรี ชลบุรี เชียงใหม่ เชียงราย นครราชสีมา นนทบุรี นราธิวาส ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ พังงา เพชรบุรี ภูเก็ต ระยอง สงขลา
ทั้งนี้ สธ.จะออกคำแนะนำให้มีการสวมหน้ากากอนามัยใน 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มผู้ป่วย หรือกลุ่มเสี่ยง 608 2.ผู้ที่อยู่ในสถานที่ปิด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก และ 3.ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก