27 มีนาคม 2564 ที่ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ได้รับแจ้งจากประชานหมู่ที่ 3 บ้านคลองจิหลาด ตำบลไสไทย อำเภอเมืองกระบี่ ว่ามีแรงงานชาวเมียนมาจำนวนมากร่วมตัวกัน กลัวว่าอาจจะเกิดเหตุร้ายและความรุนแรงขึ้นในพื้นที่ หลังรับแจ้งจึงแจ้งให้สั่งให้ร้อยตำรวจเอก วิภัทร สวัสดิวงศ์ หัวหน้าป้อมยามตำบลบ้านหนองกก และร้อยตำรวจเอก ธีรยุทธ โนรัตน์ ร้อยเวรป้องกันและปราบรามหัวหน้าสายตรวจ 191 พร้อมด้วยชุดสืบสวนนำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จุดทึ่ได้รับแจ้งอย่างทันท่วงที
แต่ปรากฏว่าเมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ไปถึงพบจุดที่แรงงานชาวเมียนมารวมตัวกัน อยู่ในแคมป์คนงานก่อสร้างของห้างหุ้นส่วนจำกัดธนภัทรคอนสตอคชั่น ซึ่งกลุ่มแรงงานดังกล่าวได้ทยอยกันเดินทางกลับเกือบหมดแล้ว คงเหลือแต่คนงานที่พักในแคมป์ดังกล่าวประมาณ 20 คน โดยมีนายอ่องโช และนางหยิน หัวหน้าคนงานแรงงงานดังกล่าว เป็นผู้ดูแลแคมป์คนงาน และได้ทิ้งร่องรอยกระดาษใบปลิวของพลเอก อาวุโสมิน อ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพพม่า เกลื่อนพื้นดิน
เจ้าหน้าที่ได้สอบถามนายอ่องโช และหยิน ถึงการร่วมตัวของแรงงานชาวเมียนมาในครั้งนี้ ทราบว่าแรงงงานที่มารวมตัวมาจากพื้นที่ตำบลไสไทย ตำบลเขาคราม อำเภอเมืองกระบี่ จากอำเภอเขาพนม และจากอำเภอลำทับ จังหวัดกระบี่ จำนวน 100 คน มาร่วมกันเพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับพี่น้องประชาชนชาวเมียนมา ที่ถูกรัฐบาลทหารพม่ายึดอำนาจและยิ่งเสียชีวิต ในการต่อสู้เรียกร้องอธิปไตยคืนให้กับรัฐบาลของ นางอองซาน ซูจี โดยช่วงที่มีการทำบุญนั้นไม่ได้ใช้เครื่องขยายเสียง แต่ในช่วงที่มีการเรียกร้องได้ใช้เครื่องขยายเสียง ซึ่งใช้เวลาไม่นานแต่ได้มีการไลน์สดไปยังเพื่อนที่อยู่ประเทศเมียนมาด้วย จึงทำให้ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงแตกตื่น
ด้านของเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการตักเตือนผู้ดูแลคนงานในแคมป์ดังกล่าว ห้ามมีการจัดกิจกรรมหรือการรวมตัวทุกกรณี ห้ามมีการชุมนุมเรียกร้องทางการเมือง ห้ามฝ่าฝืนพระราชกำหนดฉุกเฉิน และห้ามฝ่าฝืนพระราชบัญญัติควบคุมโรคติดต่อไวรัสโควิด 19 หากฝ่าฝืนจะถูกจับกุมดำเนินคดี และเจ้าหน้าที่ยังได้มีการตรวจบัตรแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาใช้แรงงานในพื้นที่จังหวัดกระบี่ด้วย ซึ่งไม่พบแรงงานเถื่อนแต่อย่างใด